ในประวัติความคิดทางการเมืองอิทธิพลของรุสโซดูจะมีมากกว่าและลึกกว่ามองเตสกิเออในแง่ของการประทับความรู้สึกนึกคิดของคนร่วมสมัยและผลสะท้อนในศตวรรษต่อมาความสำเร็จของทฤษฎีต่างๆ ของรุสโซเกิดขึ้นก็เนื่องจากว่าสังคมยุโรปโดยเฉพาะอย่างยิ่งสังคมฝรั่งเศสในขณะนั้นกำลังต้องการอยู่ ก่อนหน้าการปฏิวัติใหญ่ในปี ค.ศ.1789 บรรดาผู้คนแก่ทั้งหลายต่างก็หยิบยก “สัญญาประชาคม” ขึ้นมาถกเถียงกัน กล่าวได้ว่าการปฏิวัติ 1789 ได้รับอิทธิพลทั้งโดยทั้งทางตรงและทางอ้อมจากความคิดมูลฐานสำคัญๆแห่ง “สัญญาประชาคม” ซึ่งได้เข้ามาแทรกซึมอยู่ในความรู้สึกนึกคิดของมหาชนผู้มีการศึกษาและแพร่ขยายออกไป ความคิดมูลฐานสำคัญๆ ดังกล่าวนี้ได้แก่ ความคิดเกี่ยวกับเอกภาพของรัฐ เกี่ยวกับผลประโยชน์ส่วนร่วมที่จะต้องได้รับการเคารพ เกี่ยวกับอำนาจอธิปไตยของประชาชน เกี่ยวกับกฎหมายซึ่งเป็นการแสดงออกของเจนจำนงทั่วไป เกี่ยวกับการขจัดออกไปซึ่ง “สังคมย่อย” อันได้แก้กลุ่มคระต่างๆ สมาคมพรรคการเมือง เกี่ยวกับความไม่ไว้วางใจฝ่ายบริหารเกี่ยวกับระบอบเผด็จการเพื่อความปลอดภัยสาธารณะและเกี่ยวกับศาสนาของราษฎร
ความคิดของรุสโซเหล่านี้มีอิทธิพลต้อผู้ร่างรัฐธรรมนูญฝรั่งเศส ค.ศ.1789 มาก เช่นเดียวกับอิทธิพลของความคิดของมองเตสกิเออและของซิเออแยส โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังปี ค.ศ.1792 ความคิดเหล่านี้ได้เข้าครบงำกลุ่มการเมืองสำคัญๆ ของฝรั่งเศสอันได้แก่กลุ่มมองตานญ์ และโรเบสปีแอร์ รัฐธรรมนูญ ค.ศ.1793 ของฝรั่งเศสก็คือผลิตผลโดยตรงของความคิดของรุสโซ ในปัจจุบันระบอบประชาธิปไตยตะวันตกก็ยังเป็นระบอบที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานความคิดของรุสโซอยู่หลายประการ ได้แก่มนุษย์ทุกคนเกิดมาอิสระและยังคงเป็นอิสระและเสมอภาคกันในกฎหมาย ความคิดที่ว่าจุดมุ่งหมายของรัฐก็คือการธำรงรักษาไว้ซึ่งสิทธิธรรมชาติของมนุษย์ ความคิดที่ว่าบุคคลเมื่อเข้ามาร่วมตัวกันอยู่เป็นรัฐก็ไม่ควรอยู่ใต้อำนาจใครเลย นอกจากอำนาจของมวลพวกเขากันเอง และประการสุดท้าย ความคิดที่ว่ากฎหมายคือการแสดงออกของเจนจำนงทั่วไป ราษฎรทุกคนมีสิทธิเข้าไปมีส่วนร่วมในการออกกฎหมาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น