วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2554

ความรู้รอบตัว

ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับประเทศฝรั่งเศส

ข้อมูลทั่วไป

ประชากร
ประชากรจำนวน 62.2 ล้านคน (ปี 2005)
ความหนาแน่นของประชากร 96 คนต่อตารางกิโลเมตร
เมืองมีประชากรมากกว่า 100,000 คนมีถึง 57 เมือง

สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ
- พื้นที่เกษตรกรรมและทำป่าไม้มีประมาณ 48 ล้านเฮกตาร์ คิดเป็นร้อยละ 82 ของพื้นที่โดยรวมทั้งประเทศ (เฉพาะฝรั่งเศสส่วนภาคพื้นทวีป)
- พื้นที่ป่ามีประมาณร้อยละ 30 และนับว่ามีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของสหภาพยุโรปรองจากสวีเดนและฟินแลนด์ ตั้งแต่ปี 1945 พื้นที่ป่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 46 และถ้าพูดถึงในช่วง 200 ปีที่ผ่านมา นับว่าเพิ่มขึ้นถึงเท่าตัว
- ฝรั่งเศสมีความแตกต่างไปจากประเทศอื่นๆในยุโรปเพราะมีพันธุ์ไม้มากถึง 136 ชนิด ในส่วนของสัตว์ใหญ่ก็เพิ่มจำนวนขึ้น ภายในช่วงระยะเวลา 20 ปี จำนวนของสัตว์ประเภทกวางเพิ่มขึ้นถึง 2-3 เท่า

ประเทศฝรั่งเศสให้ความสำคัญกับมรดกทางธรรมชาติและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ จึงได้มีการจัดตั้ง
- อุทยานแห่งชาติ 7 แห่ง
- ป่าสงวน 156 แห่ง
- เขตรักษาพันธุ์พืชและสัตว์ป่า 516 แห่ง
- รวมทั้งประกาศให้พื้นที่อีก 429 แห่งเป็นเขตอนุรักษ์อยู่ภายใต้การดูแลของสถาบันอนุรักษ์ชายฝั่งทะเล
- นอกจากนี้ยังมีอุทยานธรรมชาติตามภูมิภาคต่างๆ อีกกว่า 37 แห่งซึ่งกินพื้นที่กว่าร้อยละ 7 ของประเทศ

งบประมาณจำนวน 32 พันล้านยูโรได้รับการจัดสรรเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และเมื่อคิดเป็นค่าใช้จ่ายต่อประชากรจะเท่ากับ 516 ยูโร ทั้งนี้ 3 ส่วน 4 ของเงินข้างต้นจะเป็นค่าใช้จ่ายในเรื่องของการบำบัดน้ำเสียและการจัดการของเสียต่างๆ

ในระดับนานาชาติ ฝรั่งเศสเป็นภาคีของสนธิสัญญาและอนุสัญญาทางด้านสิ่งแวดล้อมหลายฉบับ รวมทั้งอนุสัญญาของสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความหลากหลายทางชีวภาพและการแปรสภาพเป็นทะเลทราย

พื้นที่
ฝรั่งเศสมีพื้นที่ 550,000 ตารางกิโลเมตร นับเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปตะวันตก (ประมาณเกือบหนึ่งในห้าของพื้นที่ของสหภาพยุโรป) อีกทั้งยังมีพื้นที่ชายฝั่งทะเลที่กินอาณาบริเวณกว้างขวาง (เขตเศรษฐกิจจำเพาะมีพื้นที่ทั้งสิ้น 11 ล้านตารางกิโลเมตร)

คลิกดูแผนที่ประเทศฝรั่งเศส
คลิกดูแผนที่ประเทศฝรั่งเศส

ภูมิประเทศและสภาพอากาศ
ที่ตั้งและขนาด

ประเทศฝรั่งเศสตั้งอยู่ในยุโรปตะวันตกระหว่างมหาสมทุรแอตแลนติกและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ล้อมรอบด้วยประเทศเพื่อนบ้าน 6 ประเทศ

ทิศเหนือ คือ ลุกเซมเบอร์กและเบลเยี่ยม
ทิศใต้ ประเทศสปน
ทิศตะวันออก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี และเยอรมัน
ทิศตะวันตก ติดมหาสมุทรแอตแลนติค

ขนาดพื้นที่และจำนวนประชากรของฝรั่งเศสนับว่าใกล้เคียงกับประเทศไทยมาก กล่าวคือ ฝรั่งเศสมีพื้นที่และ จำนวนประชาชน ของฝรั่งเศส นับว่าใกล้เคียงกับประเทศไทยมาก กล่าวคือ ฝรั่งเศสมีพื้นที่ จำนวน 551,000 ตารางกิโลเมตร ส่วนประเทศไทยมีพื้นที่ 513,142 ตารางกิโลเมตร ประชากรฝรั่งเศสมีประมาณ 58.5 ล้านคน ประเทศไทยมีประมาณ 60 ล้านคน

ภูมิอากาศ แบ่งเป็น 4 ฤดู คือ
ฤดูใบไม้ผลิ 21 มีนาคม – 21 มิถุนายน อุณหภูมิเฉลี่ย 1 ถึง 22ฐ C
ฤดูร้อน 22 มิถุนายน – 22 กันยายน อุณหภูมิเฉลี่ย 10 ถึง 25ฐ C
ฤดูใบไม้ร่วง 23 กันยายน – 21 ธันวาคม อุณหภูมิเฉลี่ย 0 ถึง 21ฐ C
ฤดูหนาว 22 ธันวาคม – 20 มีนาคม อุณหภูมิเฉลี่ย -1 ถึง 15ฐ C


การศึกษาต่อในประเทศฝรั่งเศส
การเตรียมตัวก่อนไปฝรั่งเศส
การเตรียมตัวก่อนไปฝรั่งเศสเป็นเงื่อนไขสำคัญที่จะช่วยให้ท่านประสบความสำเร็จในการศึกษา ขั้นตอนต่างๆ เช่น การหาข้อมูลเกี่ยวกับประเทศฝรั่งเศส การเลือกสาขาวิชา การสมัครเข้าเรียนในสถาบันอุดมศึกษา และการขอวีซ่าระยะยาวประเภทนักศึกษา เป็นขั้นตอนที่จำเป็นต้องปฏิบัติก่อนออกเดินทาง อนึ่ง ท่านจะต้องมีแหล่งรายได้ที่เพียงพอสำหรับการศึกษาในฝรั่งเศส (ทุนการศึกษา หรือเงินช่วยเหลือ หรือการอุดหนุนจากครอบครัว)

การสมัครเข้าเรียนล่วงหน้าในมหาวิทยาลัย กรณีการศึกษาปีที่ 1 และปีที่ 2
การสมัครเข้าเรียนล่วงหน้า เป็นข้อบังคับในกรณีที่ท่านจะลงทะเบียนเรียนเป็นครั้งแรกในช่วงการศึกษาที่ 1 (ปี 1 และปี2) ของมหาวิทยาลัยทุกสาขาวิชา รวมถึงปี 1 สาขาวิชาแพทยศาสตร์และทันตแพทศาสตร์, ปี 1 สาขาวิชาเภสัชศาสตร์และปี 1 ชั้นเตรียมศึกษากฎหมาย

ในกรณีดังกล่าว หลังจากที่ท่านได้เลือกสาขาวิชาที่ท่านจะไปศึกษา และสถาบันการศึกษาที่ท่านสนใจได้แล้ว ท่านจะต้องติดต่อขอใบสมัครเข้าเรียนล่วงหน้า จากฝ่ายวัฒนธรรมแห่งสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศที่อาศัยอยู่ โดยที่ท่านอาจไปติดต่อด้วยตนเองหรือทางไปรษณีย์

ข้อยกเว้น
ในกรณีที่ท่านอาศัยอยู่ในฝรั่งเศสโดยมีใบอนุญาตประจำตัวคนต่างชาติ ที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 1 ปี ท่านสามารถติดต่อขอใบสมัครเข้าเรียนล่วงหน้าจากมหาวิทยาลัย ที่ท่านเลือกเป็นอันดับแรก

ในกรณีที่ผู้ปกครองหรือคู่สมรสของท่านอาศัยอยู่ในฝรั่งเศส โดยมีใบอนุญาตประจำตัวคนต่างชาติที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 3 ปี ท่านสามารถติดต่อขอใบสมัครเข้าเรียนล่วงหน้าจากมหาวิทยาลัยที่ท่านเลือกเป็นอันดับแรกเช่นกัน

วิธีปฏิบัติ
ในทุกกรณี ท่านมีสิทธิที่จะสมัครเข้าเรียนล่วงหน้าในมหาวิทยาลัยได้สองแห่ง โดยบอกลำดับที่ ต้องการยกเว้นสำหรับมหาวิทยาลัยในเขตการศึกษา ปารีส เครแตยและแวร์ซายส์ ซึ่งท่านมีสิทธิที่จะเลือกมหาวิทยาลัยเพียงแห่งเดียว

เมื่อได้กรอกแล้ว ท่านจะต้องส่งใบสมัคร (พร้อมหลักฐานที่จำเป็น) กลับไปยังหน่วยงานที่ท่านได้ไปขอมา หากมหาวิทยาลัยที่ท่านได้เลือกเป็นอันดับแรกไม่รับท่านเข้าศึกษา มหาวิทยาลัยดังกล่าวจะรับหน้าที่ส่งเรื่องต่อไปยังมหาวิทยาลัยที่ท่านได้เลือกเป็นอันดับสอง

กรณีที่มหาวิทยาลัยไม่รับท่านเข้าศึกษา
- หากมหาวิทยาลัยที่ท่านได้เลือกทั้งสองแห่งไม่รับท่านเข้าเรียน และถ้าท่านสอบผ่านการทดสอบภาษา ท่านสามารถที่จะยื่นคำอุทธรณ์เสนอชื่อมหาวิทยาลัยอันดับ 3 ที่ท่านยังไม่ได้เลือกครั้งแรกไปยังรัฐมนตรีกระทรวงมหาวิทยาลัยและการวิจัย ก่อนวันที่ 15 กรกฎาคม กระทรวงมหาวิทยาลัยฯจะแจ้งคำตอบให้ทราบภายในวันที่ 15 กันยายน

- ในกรณีที่ท่านได้สมัครเข้าศึกษาในสถาบันการศึกษาที่คัดเลือกนักศึกษา โดยอาศัยการพิจารณาวุฒิหรือการสอบเข้า แต่สถาบันดังกล่าวไม่รับท่านเข้าเรียน และท่านต้องการสมัครเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยแทน ท่านก็ยังต้องยื่นใบสมัครเข้าเรียนล่วงหน้าสำหรับช่วงการศึกษาปีที่หนึ่ง ในมหาวิทยาลัยเหมือนกับกรณีทั่วไป

- ในกรณีที่ท่านสมัครเข้าศึกษาในระดับปีที่ 3 และ 4 และได้รับการปฏิเสธ มิได้หมายความว่าท่านมีสิทธิเข้าศึกษาในระดับปีที่ 1 และ 2 ได้โดยอัตโนมัติ หากแต่ท่านจะต้องยื่นใบสมัครเข้าเรียนล่วงหน้าเหมือนกรณีปกติ

วิธีการอุทธรณ์
ในกรณีที่มหาวิทยาลัยที่ท่านได้เลือกทั้งสองแห่งไม่รับท่านเข้าเรียนดังที่กล่าวแล้ว ท่านต้องส่งจดหมายอุทธรณ์ไปยังรัฐมนตรีกระทรวงมหาวิทยาลัยฯ ตามที่อยู่ดังต่อไปนี้

Minitrère de l’Enseignement Supérieur et de la Recherche, DGESI
61, rue Dutot,
75732 Paris Cedex 15

พร้อมกับสำเนาใบเสร็จจากการสมัครเข้าเรียนล่วงหน้าครั้งแรกซึ่งมีหมายเลขกำกับ สำเนาคำตอบปฏิเสขจากมหาวิทยาลัยทั้งสองแห่ง สำเนาคะแนนผลสอบภาษา สำเนาประกาศนียบัตรที่ทำให้ท่านมีสิทธิศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาในประเทศไทย พร้อมคำแปลที่รับรองว่าถูกต้องตามต้นฉบับ

- คำอุทธรณ์ดังกล่าวจะได้รับการพิจารณาเฉพาะในกรณีที่ท่านได้คะแนนเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 10 ในการสอบภาษา (ครึ่งหนึ่งของคะแนนเต็ม)

- จดหมายต่างๆ ต้องเขียนเป็นภาษาฝรั่งเศสและระบุระดับการศึกษา สาขาการศึกษาและที่อยู่ให้ละเอียดชัดเจน

การสอบภาษา
ก่อนที่ท่านจะสามารถลงทะเบียนในสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษา หรือสมัครเข้าเรียนล่วงหน้าได้ท่านจำเป็นต้องใช้ภาษาฝรั่งเศสได้ดี และจะต้องสอบภาษา

การสอบดังกล่าวจัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ โดยผ่ายวัฒนธรรมแห่งสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย หรือโดยมหาวิทยาลัยที่ท่านได้ยื่นใบสมัครเข้าเรียนล่วงหน้าในฝรั่งเศส

ข้อสอบ
การสอบภาษาประกอบด้วยข้อสอบสองชุด ซึ่งมีเนื้อหาที่สอดคล้องกับสาขาวิชาที่ท่านจะไปเรียนต่อและเน้นทักษะการเขียนเป็นพิเศษ ข้อสอบในแต่ละสาขาวิชานั้นใช้ชุดเดียวกันทุกแห่ง โดยกระทรวงมหาวิทยาลัยฯแต่งตั้งคณะกรรมการทำหน้าที่ออกข้อสอบทุกปี

การยกเว้นไม่ต้องสอบภาษา

ผู้มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้มีสิทธิไม่ต้องสอบภาษา

- ผู้ถือสัญชาติของประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษราชการ

- ผู้ถือสัญชาติของประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส ในข้อสอบส่วนใหญ่ของการสอบไล่มัธยมปลาย ผู้ได้รับประกาศนียบัตร Diplôme d’études approfondies de langue française (DALF)

ค่าใช้จ่าย

ค่าเล่าเรียนตลอดปี
1. ระดับมหาวิทยาลัย 800 – 4,500 แฟรงค์ฝรั่งเศส
2. โรงเรียนชั้นสูงของรัฐ 3,400 แฟรงค์ฝรั่งเศส
3. โรงเรียนชั้นสูงของเอกชน 25,000 – 100,000 แฟรงค์ฝรั่งเศส

ค่าที่พักต่อเดือน
1. หอพักของมหาวิทยาลัย 700 – 1,000 แฟรงค์ฝรั่งเศส
(มีจำนวนจำกัดและให้สิทธิ์นักเรียนทุนรัฐบาลฝรั่งเศสก่อน)
2. หอพักของเอกชน 2,500 – 3,500 แฟรงค์ฝรั่งเศส

ค่าอาหาร ค่าเดินทาง และค่าใช้จ่ายส่วนตัว เดือนละ 2,500 – 3,500 แฟรงค์ฝรั่งเศส

ค่าประกันสุขภาพต่อปี 1,000 – 5,000 แฟรงค์ฝรั่งเศส

รวมค่าใช้จ่ายต่อปีทั้งหมด ประมาณ
1. สถานศึกษาของรัฐ 40,200 – 93,500 แฟรงค์ฝรั่งเศส
2. สถานศึกษาของเอกชน 86,000+ แฟรงค์ฝรั่งเศส

ข้อมูลจำเพาะ

ที่พักสำหรับนักศึกษา

พักสำหรับนักศึกษาในประเทศฝรั่งเศส มีหลายประเภท คือ
1. หอพักนักศึกษานานาชาติแห่งกรุงปารีส ประกอบด้วยหอพักต่างๆ 37 หอ ซึ่งตั้งอยู่ใน สวนที่มีพื้นที่ 250 ไร่ พร้อมบริการและสิ่งอำนวยความสะดวก ส่วนรวมครบครัน หอพัก แต่ละหออยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของประเทศใดประเทศหนึ่งหรือ สถาบันการศึกษา แหงใดแห่งหนึ่ง เช่น หอสหรัฐ หอตูนิเซีย หอลาว ฯลฯ ราคาห้องพักประมาณ 1,320 – 1,900 แฟรงค์ฝรั่งเศสต่อเดือน สำหรับห้องเดี่ยว และ 2,315 – 3,500 แฟรงค์ฝรั่งเศส ต่อเดือน สำหรับห้องคู่ (ปี 1995) สอบถามรายละเอียดได้ที่

Service des admissions
Foundation nationale CIUP
19, Boulevard Jourdan
75690 Paris Cedex 14
(โทรศัพท์ 4412-6443 : Fax 4416-6403)

2. หอพักของหน่วยงาน CROUS (องค์กรนักศึกษาระดับภูมิภาค) มี 28 แห่ง กระจายอยู่ตาม เมืองต่างๆ ทั่วประเทศฝรั่งเศส มีหอพักหลายประเภท เช่น หอพักแบบ ห้องน้ำรวม หอพักแบบสตูดิโอ (ห้องน้ำส่วนตัว + มุมทำอาหาร) นอกจากนี้หน่วยงาน CROUS ยังรับติดต่อหอพักของวิทยาลัย แฟลตเอกชนและที่พักกับครอบครัวให้ด้วย ราคาประมาณ 1,000 – 3,500 แฟรงค์ฝรั่งเศสต่อเดือน (ปี 1998) สอบถาม รายละเอียด ได้จากหน่วยงาน CROUS ทั้ง 28 แห่ง (ขอที่อยู่ได้จากส่วนการศึกษาและฝึกอบรม ในต่างประเทศ)

3. การอยู่กับครอบครัว มี 2 แบบ คือ
3.1 พักอาศัยและรับประทานอาหารร่วมกับครอบครัวโดยต้องจ่ายค่าที่พักและค่าอาหาร
3.2พักอาศัยกับครอบครัวแล้วทำงานเป็นการแลกเปลี่ยน

การหาที่พักทั้ง 2 ประเภทนี้ อาจหาข้อมูลได้จาก CROUS เช่นกัน หรือติดต่อผ่าน Accueil familial des jeunes etrangers ตั้งอยู่ที่ 23, rue du Cherche - Midi 75006 Paris, France Tel : 01 42 2250 34 Fax. 01 45 44 60 48 ซึ่งเป็นหน่วยงานที่จัดหา ครอบครัว ฝรั่งเศสให้ชาวต่างชาติทั้งในปารีสและต่างจังหวัด

ข้อพึงระวัง
ฝรั่งเศสเป็นประเทศที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางไปเยือนปีละกว่า 60 ล้านคน โดยเฉพาะในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวระหว่างเดือนพฤษภาคม - สิงหาคม ซึ่งควรระวังดังนี้
- ไม่ควรพกเงินสดติดตัวเป็นจำนวนมาก
- ไม่ควรสวมใส่เครื่องประดับราคาแพงเกินจำเป็น เพราะท่านอาจตกเป็นเป้าหมายของมิจฉาชีพได้
- ถ่ายสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง และหน้าวีซ่าแยกเก็บไว้เป็นหลักฐาน เพื่อใช้ประโยชน์ในการทำหนังสือเดินทางในกรณีเอกสารต่าง ๆ ดังกล่าวสูญหาย
- ไม่ควรทิ้งสิ่งของมีค่าไว้ในตู้นิรภัยในห้องพักของโรงแรมขณะที่ท่านไม่อยู่ ควรเก็บรักษาไว้ในที่ปลอดภัย มิดชิด และมีพยานรับรู้
- ระมัดระวังทรัพย์สินเมื่ออยู่ที่ท่าอากาศยานบริเวณรถไฟใต้ดิน และเขตที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไทยสูญเสียทรัพย์สินแก่กลุ่มมิจฉาชีพกลุ่มต่าง ๆ อาทิ นักล้วงกระเป๋า หรือถูกหลอกลวงในลักษณะต่าง ๆ เสมอมา
- ระมัดระวังตัวเองและหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง เนื่องจากมีรายงานและข่าวเกี่ยวกับกลุ่มอันธพาลวัยรุ่นทำร้ายนักท่องเที่ยวโดยไร้เหตุผล


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส
L'AMBASSADE ROYALE DE THAILANDE
8 Rue Greuze 75116 PARIS
โทรศัพท์ (331) 5626-5050
โทรสาร (331) 5626-0445-6
สถานีรถไฟ Metro Trocadero
โทรศัพท์ (331) 5626-0440 (หลังเวลาราชการ)
เวลาทำการ
จันทร์ - ศุกร์ (เว้นวันหยุดราชการ)
09.30 - 12.30 น. และ 14.30 - 17.30 น.

กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ โทรศัพท์ 981 7171 โทรสาร 575 1038

การขอวีซ่าฝรั่งเศส (France Visa)

ประเภทและระยะเวลาของวีซ่า การขอวีซ่า

เมื่อนักเรียนได้รับหนังสือตอบรับจากสถาบันการศึกษาในประเทศฝรั่งเศสแล้ว นักเรียนจะต้องยื่น ขอวีซ่านักเรียน ซึ่งทางการฝรั่งเศสเรียกว่า วีซ่าระยะยาวประเภทนักเรียน โดยนักเรียน ต้องไปติดต่อสถานกงศุลฝรั่งเศส ซึ่งตั้งอยู่ที่
29 สาธรใต้ กรุงเทพ 10120 โทรศัพท์ 2872585-87 เพื่อขอแบบฟอร์มการทำวีซ่า

เอกสารประกอบการขอยื่นวีซ่านักเรียน มีดังนี้ คือ

1. แบบฟอร์มขอวีซ่า ที่กรอกรายละเอียดสมบูรณ์แล้ว จำนวน 2 ชุด
2. หนังสือเดินทาง ซึ่งต้องมีอายุใช้การได้เกินกว่า 1 ปี
3. หนังสือตอบรับการลงทะเบียนมหาวิทยาลัยหรือโรงเรียน ซึ่งต้องระบุระดับการศึกษา พร้อมสาขาวิชาที่จะเรียน หากเป็นการเรียนหลักสูตรภาษาฝรั่งเศส ต้องระบุจำนวน ชั่วโมงการเรียนไว้ด้วย
4. สำเนาบัตรประชาชนไทย พร้อมคำแปลเป็นภาษาฝรั่งเศส
5. สูติบัตรพร้อมคำแปลเป็นภาษาฝรั่งเศส
6. หลักฐานการศึกษา (ฉบับจริง) พร้อมคำแปลเป็นภาษาฝรั่งเศส
7. รูปถ่ายขนาด 2 นิ้ว จำนวน 2 รูป
8. หนังสือรับรองจากธนาคารหรือจากผู้ปกครอง พร้อมระบุจำนวนเงินที่จะส่งให้นักเรียน (นักศึกษา) ใช้จ่ายที่ประเทศฝรั่งเศสในแต่ละเดือน ซึ่งต้องไม่น้อยกว่า 2,500 แฟรงค์ฝรั่งเศสต่อเดือน
9. หลักฐานยืนยันที่พัก เช่น
9. 1หนังสือยืนยันที่พัก รับรองโดยผู้ตอบรับ พร้อมสำเนาบัตรประจำตัว หรือสำเนา ใบสำคัญถิ่นที่อยู่ในกรณีที่ผู้ตอบรับเป็นต่างด้าว
9.2 หรือ สัญญาเช่า
9.3 หรือ หนังสือรับรองกรรมสิทธิ์
9.4 หรือ หลักฐานการจองห้องพักของสถาบันการศึกษา
10. ใบรับรองแพทย์ โดยแพทย์ที่สถานทูตรับรองสถานะ
นายแพทย์ ฟิลิป พลางกูร
PSE คลินิก
1 ถนนนเรศ, กรุงเทพฯ 10500
โทร. 236 1389 และ 236 1489

11. ใบประกันสุขภาพ สำหรับนักศึกษาที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี หรือผู้ที่มีอายุมากกว่า 28 ปี
12. ในกรณีที่ท่านอายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ ท่านจะต้องมีหนังสือรับรองจากผู้ปกครอง
13. ค่าธรรมเนียมการขอวีซ่านักเรียน ประมาณ 2,145 บาท
14. ระยะเวลาการขออนุมัติวีซ่า ประมาณ 4 วัน

หมายเหตุ
1. นักเรียนที่สามารถหาหลักประกันเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ ในระหว่างที่พำนักในฝรั่งเศส ไม่ต้องแสดงเอกสารยืนยันที่พัก
2. นักเรียนทุนของรัฐบาลฝรั่งเศสจะต้องแสดงใบตอบรับทุนการศึกษา และทางสถานทูต อาจเรียกให้แสดงหลักฐานที่พักอาศัย หรือหลักฐานทางการเงินเพิ่มเติม
3. นักศึกษาที่เป็นนักเรียนทุนของรัฐบาลไทย หรือทุนของหน่วยงานระหว่างประเทศ หรือนักเรียนทุนตามข้อตกลงระหว่างรัฐบาล หรือนักเรียนทุนตามพันธะสัญญา มหาวิทยาลัย ไม่จำเป็นต้องแสดงหลักฐานทางการเงินหรือหลักฐานที่พัก แต่จะต้อง แสดงเอกสารรับรองจากแผนกวัฒนธรรม ซึ่งได้ระบุถึงคุณสมบัติของทุนที่ได้รับ
4. นักศึกษาที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี จะต้องแสดงหนังสือยินยอมให้เดินทางจากผู้ปกครอง หรือจากผู้มีอำนาจในการปกครองดูแล ซึ่งออกโดยที่ว่าการอำเภอ หรือหนังสือคำสั่งศาล
5. เอกสารที่เป็นภาษาอื่นทุกฉบับจะต้องแนบคำแปลภาษาฝรั่งเศสประกอบมาด้วยเสมอไป
6. แฟ้มคำร้องขอรับการตรวจลงตรา (วีซ่า) ที่ประกอบด้วยเอกสารครบถ้วน สมบูรณ์ แล้วเท่านั้น จึงจะสามารถยื่นต่อสถานทูตฯ เพื่อขอรับการพิจารณา

สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสสงวนสิทธิ์ที่จะเรียกถามรายละเอียด หรือเอกสารอื่นๆ เพิ่มเติมได้

สิ่งสำคัญ
ท่านต้องนำเอกสารฉบับจริงดังกล่าวทั้งหมดติดตัวไปฝรั่งเศสด้วย เนื่องจากเจ้าหน้าที่ ตรวจคนเข้าเมืองอาจขอตรวจดูได้ก่อนการเข้าเมือง และท่านต้องใช้เอกสารเหล่านี้อีกครั้งในการ ขอบัตรประจำตัวคนต่างชาติ ที่ประเทศฝรั่งเศส

วันเพ็ญ ชัยวิศาลศักดิ์กุล
กลุ่มบริการแนะแนวการศึกษา
ส่วนการศึกษาและฝึกอบรมในต่างประเทศ
โทร. 2819544
มกราคม 2542

10 อันดับผักรักษาโรค

10 อันดับจาก "ผักรักษาโรค"
1. เห็ดหอม มีรสหวาน มีกลิ่นหอม มีฤทธิ์ลดโคเลสเตอรอลในเลือด รับประทานเป็นยาบำรุงกำลังช่วยย่อย ลดอาการเบื่ออาหาร
2. งา มีกลิ่นหอม มีน้ำมันมาก สรรพคุณบำรุงกำลัง แก้ท้องผูก ผมหงอกก่อนวัย ลดโคเลสเตอรอลในเลือด และเสริมภูมิต้านทานโรค ผู้มีท้องร่วงเรื้อรัง ไม่ควรรับประทาน
3. ถั่ว มีคุณค่าอาหารครบถ้วน มีสรรพคุณบำรุงร่างกาย ขับปัสสาวะ ลดอาการบวมน้ำ
4. ขี้เหล็ก ใช้ใบรับประทาน ทำให้นอนหลับดี แก้ท้องผูก และบำรุงร่างกาย
5. ตำลึง เป็นไม้เถา ใช้ใบรับประทาน เป็นพืชมีคุณค่าสูง เหมาะเป็นอาหารบำรุง นอกจากนี้ตำลึงยังมีคุณสมบัติแก้แพ้ได้ดี โดยนำใบมาพอกบริเวณโดนสัตว์กัดต่อย
6. มะระ เป็นผักจำพวกแตง มีรสขม เป็นยาดับร้อน ถอนพิษไข้ แก้กระหาย มีการทดลองกินมะระลดน้ำตาลในเลือดได้ (ส่วนเม็ดมะระจีนแก่จัดตากแห้งแกะเปลือกนอกออก นำมาบดให้ละเอียด ละลายน้ำร้อนกินวันละครั้งก่อนนอน จะแก้อาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร และกระตุ้นความรู้สึกทางเพศได้)
7. ผักกาด มี 3 ชนิด ผักกาดขาว ผักกาดเขียว และผักกาดหอม ต่างมีสารอาหารเกลือแร่วิตามินครบบริบูรณ์ และมีเส้นใยอยู่จำนวนมาก รับประทานป้องกันอาการท้องผูก ลดการเป็นมะเร็งลำไส้ ส่วนผักกาดหอมสามารถป้องกันโรคความดันโลหิตสูง เพิ่มความยืดหยุ่นของหลอดเลือด และสร้างเสริมภูมิต้านทานโรค
8. มะเขือ มีอยู่ 3 ชนิด เปลือกสีเขียว สีม่วง และสีขาว พบว่าเปลือกสีม่วงและสีขาวมีคุณภาพดีกว่าสีเขียว ในมะเขือมีวิตามินบี 1 จำนวนมาก ช่วยเสริมการทำงานของสมอง ช่วยความจำ ลดอาการอ่อนเปลี้ยของสมอง ในมะเขือยาวนี้มีโปรตีน แคลเซียม และวิตามินมากกว่ามะเขือเทศ รับประทานช่วยให้เส้นเลือดไม่เปราะ ป้องกันโรคความดันโลหิตสูงและโรคลักปิดลักเปิด
9. ปวยเล้ง เป็นผักสีเขียวเข้ม มีเส้นใย เกลือแร่ วิตามินซี กรดออกซาลิกจำนวนมาก ซึ่งกรดนี้ถ้ารวมตัวกับแคลเซียมจะทำให้เกิดนิ่วได้ ก่อนบริโภค ควรลวกให้สุกก่อน จึงนำมาปรุงอาหาร รับประทานเพื่อยับยั้งการดำเนินของโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน
10. แค รับประทานดอกชนิดสีแดงและสีขาว มีสรรพคุณลดไข้ ส่วนใบแครับประทานเป็นยาระบายได้
11. หัวปลี เป็นส่วนดอกของต้นกล้วย มีธาตุเหล็ก จึงบำรุงเลือด แก้โลหิตจาง และยังคงลดน้ำตาลในเลือด แก้โรคเกี่ยวกับลำไส้ การนำมาปรุงอาหารได้แก่ ยำหัวปลี หรือรับประทานสดก็ได้

วันแรกสอบยากจัง -_- แต่ก็สู้

วันศุกร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2554

ผลไม้เพื่อสุขภาพ

ลูกพรุน (Prunes)         ลูกพรุน เป็นแหล่งที่ดีของโปแตสเซียม เหล็กและไฟเบอร์ ที่สำคัญพรุนช่วยทำให้ผิวพรรณมีเลือดฝาด พรุนเป็นแหล่งธาตุเหล็กที่ดี พรุนแห้งหนึ่งขีดมีธาตุเหล็ก 2.78มิลลิกรัมและมีวิตามิน ซี ซึ่งช่วยในการดูดซึมธาตุต่าง ๆ เข้าสู่ร่างกาย ดังนั้นหากคุณผู้หญิงอยากมีร่างกายแข็งแรง สมบูรณ์ริมฝีปากแดงสดเหมือนสตรอเบอรี่ แก้มแดงใสเหมือนลูกเชอรี่โดยไม่ต้องใช้เครื่องสำอาง ดูเป็นคนที่มีสุขภาพดีสมบูรณ์ด้วยเลือดฝาด

 
ถั่ว

           ผู้หญิงทุกคนอยากมีหุ่นสวยเพรียว ไม่มีไขมันส่วนเกินสะสม ถั่วช่วยคุณได้ค่ะ ถั่วเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีน เหล็ก วิตามินบี นอกจากนี้นักวิทยาศาสตร์ยังค้นพบว่าเมื่อคุณรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์ชนิดที่ละลายน้ำได้ (ซึ่งถั่วมีอยู่แล้วมากมาย)ไฟเบอร์จะเคลือบผิวกระเพาะทำให้รู้สึกอิ่มเร็วและอิ่ม-นานความอยากอาหารจะลดลง ซึ่งแน่นอนว่ามีประโยชน์กับคุณสุภาพสตรีที่ต้องการลดความอ้วนเป็นอย่างม

แอปเปิ้ล            มีสารสำคัญ คือ เบต้าแคโรทีน วิตามินซีและเส้นใยไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำ ที่ชื่อ เพคติน แต่ที่น่าสนใจสำคัญคุณผู้หญิงทั้งหลายคือ เจ้าตัว เพคตินนี้มีคุณสมบัติช่วยลดความอยากอาหาร ลดน้ำหนัก และลดโคเลสเตอรอล หากคุณหิวจนตาลาย แต่ยังไม่ถึงเวลาอาหารแอปเปิ้ลสักลูกจะช่วยลดความหิวได้ เพราะแอปเปิ้ลมีแป้ง และน้ำตาลในรูปของน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวถึง 75 %ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมน้ำตาลพิเศษชนิดนี้ได้รวดเร็วและนำไปใช้ประโยชน์ได้ ในเวลาไม่เกิน 10 นาที

 บรอคโคลี่           เป็นพืชอีกชนิดหนึ่งที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคุณสุภาพสตรีทั้งหลาย เพราะบรอค-โคลี่เป็นแหล่งซีลีเนียมตามธรรมชาติซึ่งเจ้าตัว ซีลีเนียมนี้ที่ช่วยบำรุงผิวพรรณ (ซีลี-เนียมจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวหนัง จึงทำให้ผิวดูอ่อนวัยนุ่มนิ่ม มีน้ำมีนวลเหมือนหนุ่มสาว) แถมยังช่วยลบริ้วรอยเหี่ยวย่นอีกด้วย

 
กล้วยไข่            กล้วยทุกชนิด ดีต่อสุขภาพแต่กล้วยไข่ดีเป็นพิเศษ ในเรื่องของสารต้านอนุมูลอิสระที่เรารู้จักกันดี คือ เบต้าแคโรทีน โดยธรรมชาติ เมื่อเราอายุพ้นยี่สิบสองไปแล้วความเจริญเติบโตของร่างกายจะเริ่มหยุดชะงัก ความเสื่อมในส่วนต่างๆ ของร่างกายก็จะเริ่มมาเยือนอย่างช้าๆ

 
ฝรั่ง
            ฝรั่ง 1 ขีดมีวิตามินซีสูงถึง180 มิลลิกรัม วิตามินซีมีบทบาทในการสร้างคอลลาเจนที่ทำให้ผิวพรรณบนใบหน้าของคุณเต่งตึงไม่แก่ก่อนวัยวิตามินซี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเจ้าตัวสารต้านอนุมูลอิสระนี้เองที่ทำให้คอลลาเจนและอีลาสตินเสื่อมสภาพผิวหนังแห้งเหี่ยว เกิดริ้วรอยตีนกาวิตามินซี มีความสำคัญต่อการสร้าง และบำรุงเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน(ConnectiveTissue) เซลล์นับล้านๆ ตัวเกาะเกี่ยวกันเป็นร่างกายได้ด้วยเนื้อเยื่อที่เรียกว่า คอลลาเจนมันคือคอลลาเจนตัวเดียวกันกับคอลลาเจนที่ทำให้ผิวพรรณบนใบหน้าของคุณผู้หญิงทั้งหลายเต่งตึงนั่นเอง และเพราะฝรั่งอุดมไปด้วยวิตามินซีนั่นเอง คุณๆทั้งหลายที่อยากคงความเป็นหนุ่มเป็นสาวให้แก่ผิวสวยไว้นานๆน่าจะลองหันมารับประทานฝรั่งเป็นประจำ

  ส้ม
           แหล่งวิตามิน เกลือแร่ และเส้นใยธรรม-ชาติ การรับประทานส้มโดยไม่คายกากจะช่วยคุมน้ำหนักได้อีกวิธีหนึ่ง เพราะจะทำให้รู้สึกอิ่มท้องเร็ว เป็นประโยชน์สำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนักได้อย่างดีทีเดียวค่ะ นอกจากนี้ หากรู้สึกหิวก่อนเวลา แทนที่จะนึกถึงเค้กก้อนโต หรือโดนัทชิ้นใหญ่ให้ลองหยิบส้มสักลูกเข้าปากแทนจะได้ประโยชน์มากกว่าในราคาที่ถูกกว่าด้วย
         ผักและผลไม้ทั้ง 7 ชนิดที่กล่าวมาข้างต้นนั้นเป็นเพียงแนวทางเบื้องต้น สำหรับคุณๆ ผู้หญิงทุกท่านที่ต้องการรักษาสุขภาพ นอกจากผักผลไม้ทั้งเจ็ดนี้แล้วผักและผลไม้อื่นๆ ก็มีคุณประโยชน์ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันสถาบันโภชนาการแห่งชาติอเมริกาจึงได้แนะนำขนาด-ในการรับประทานผักผลไม้ในแต่ละวันว่า ควรจะรับประทานรวมกันให้ได้วันละครึ่งกิโล หรือ 5 ขีดจะช่วยให้คุณๆทั้งหลายมีสุขภาพแข็งแรง แจ่มใส ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บมารบกวน