วันจันทร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2554

เสร็จแล้ว เสร็จสักที

เกร็ดความรู้เกี่ยวกับประเทศฝรั่งเศส

เกร็ดความรู้เกี่ยวกับประเทศฝรั่งเศส



พื้นที่
550,000 ตารางกิโลเมตรเป็นประเทศที่มีพื้นที่กว้างที่สุด ในยุโรปตะวันตก (เกือบ 1 ใน 5 ของสหภาพยุโรป) มีพื้นที่ชายฝั่งทะเลกว้างขวางมาก (เขตเศรษฐกิจเฉพาะประมาณ 11 ล้านตารางกิโลเมตร)

ลักษณะภูมิประเทศประเทศฝรั่งเศส
เป็นประเทศที่มีค่าครองชีพสูงมีความมั่งคั่ง ซึ่งเกิดจากการ เปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจตั้งแต่ปี 1940 ได้ถูกจัดอันดับ ให้เป็นหนึ่ง ในประเทศที่มีความก้าวหน้าด้านอุตสาหกรรม มีการตั้งโรงงาน มากมาย ตามเมืองสำคัญต่าง ๆ ทั่วประเทศ ธุรกิจด้านบริการถูกจัดให้มี บทบาท ในสังคมฝรั่งเศสด้วยเช่นกัน ซึ่งมากกว่า60% ของผู้ที่ใช้แรงงานอยู่ใน ธุรกิจด้านนี้
ฝรั่งเศสมีดินที่อุดมสมบูรณ์ซึ่งเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญมาก และทำให้ฝรั่งเศสมีชื่อเสียงในการทำไวน์ระดับโลก ประเทศฝรั่งเศส มีเศรษฐกิจที่มั่นคง ถูกจัดให้อยู่ในอันดับ 5 รองลงมาจาก อเมริกา, เยอรมัน, ญี่ปุ่น และ อังกฤษ
ภูมิประเทศเป็นที่ราบ 2 ใน 3 ของพื้นที่ทั้งหมดเทือกเขาที่สำคัญ : ได้แก่ เทือกเขาแอลป์ (Alpes) ยอดเขาสูงสุดในยุโรปตะวันตก คือ ม็องต์บล็อง : Mont Blanc ซึ่งอยู่ในเขตประเทศฝรั่งเศส สูง 4,807 เมตร เทือกเขาฟีรีนีส (Pyrenees) ชูรา (Jura) อาร์แดน (Ardennes) มาสชิฟซ็องทรัล (Massif Central) และโวจ (Vosges)
ชายฝั่งทะเล: มีอาณาเขตติดทะเล 4 ด้าน ได้แก่ ทะเลเหนือ (Mer du Nord) ช่องแคบอังกฤษ (Manche) มหาสมุทรแอตแลนตอก (Atlantique) และทะเลเมดิเตอร์เรเนียน (Mediterranee) รวมความยาวชายฝั่งทะเลทั้งสิ้น 5,500 กิโลเมตร
ภูมิอากาศแบ่งเป็น 3 ชนิด
ได้แก่ อากาศแบบมหาสมุทร (ภาคตะวันตก) แบบเมดิเตอร์เรเนียน (ภาคใต้) และแบบภูเขา (ภาคกลางและตะวันออก)

ประชากร
60.4 ล้านคน (สถิติเมื่อปี 2000)ความหนาแน่นของพลเมือง : 107 คน ต่อตารางกิโลเมตรฝรั่งเศสมีชุมชนที่มีประชากรมากกว่า 150,000 คน ถึง 52 แห่ง รวมประชากรกว่า 30 ล้านคน เมืองใหญ่ที่สุด 5 อันดับแรก (สถิติปี 1999 ) คือปารีส (Paris) 10.6 ล้านคนลีย็อง (Lyon) 1.6 ล้านคนมาร์แซย (Marseille) 1.4 ล้านคนลีลย์ (Lille) 1.1 ล้านคนตูลูส (Toulouse) 0.8 ล้านคน
เศรษฐกิจ
ประเทศฝรั่งเศสเป็นประเทศที่มีค่าครองชีพสูง มีความมั่งคั่ง ซึ่งเกิดจากการ เปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจตั้งแต่ปี 1940 ได้ถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่ง ในประเทศที่มีความก้าวหน้าด้านอุตสาหกรรม มีการตั้งโรงงานมากมาย ตามเมืองสำคัญต่าง ๆ ทั่วประเทศ ธุรกิจด้านบริการถูกจัดให้มีบทบาทในสังคม ฝรั่งเศสด้วยเช่นกัน ซึ่งมากกว่า 60% ของผู้ที่ใช้แรงงานอยู่ในธุรกิจด้านนี้ฝรั่งเศสมีดินที่อุดมสมบูรณ์ซึ่งเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญมาก และทำให้ฝรั่งเศสมีชื่อเสียงในการทำไวน์ระดับโลก ประเทศฝรั่งเศส มีเศรษฐกิจที่มั่นคง ถูกจัดให้อยู่ในอันดับ 5 รองลงมาจาก อเมริกา, เยอรมัน, ญี่ปุ่น และ อังกฤษ
ขอโทษค่ะที่ทำช้า

พระราชวังแวร์ซายส์

พระราชวังแวร์ซายส์ เป็นพระราชวังหลวงแห่งหนึ่งของประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่ที่เมืองแวร์ซายส์ ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของมหานครปารีส พระราชวังแวร์ซายส์เป็นพระราชวังที่ยิ่งใหญ่และสวยงามแห่งหนึ่งของโลก และนับเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคปัจจุบันด้วย
เดิมนั้น เมืองแวร์ซายส์เป็นเพียงเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งเท่านั้น มีผู้คนอาศัยอยู่เบาบาง บริเวณส่วนใหญ่เป็นป่าเขา เยี่ยงชนบทอื่น ๆ ของฝรั่งเศส เมื่อพระเจ้าหลุยส์ที่ 13 แห่งฝรั่งเศส ยังทรงพระเยาว์ ขณะพระชนมายุได้ 23 พระชันษา ทรงนิยมล่าสัตว์ในป่า และทรงเห็นว่าตำบลแวร์ซายส์น่าจะเหมาะแก่การประทับเพื่อล่าสัตว์ จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระตำหนักขึ้นมาใน พ.ศ. 2167 โดยในช่วงแรกเป็นเพียงกระท่อมเล็กๆ สำหรับพักชั่วคราวเท่านั้น
เมื่อ พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส แห่งฝรั่งเศส ขึ้นครองบัลลังก์ มีประสงค์ที่จะสร้างพระราชวังแห่งใหม่ เพื่อเป็นศูนย์กลางในการปกครองของพระองค์ จึงเริ่มปรับปรุงพระตำหนักเดิมในปี พ.ศ. 2204 ใช้เงินทั้งหมด 500,000,000 ฟรังก์ คนงาน 30,000 คน และใช้เวลาอยู่ถึง 30 ปีจึงแล้วเสร็จในพ.ศ. 2231 ทุกส่วนทำด้วยหินอ่อนสีขาว เป็นแบบอย่างศิลปกรรมที่งดงามมาก ภาย ในแบ่งออกเป็นห้องๆ เช่น ห้องบรรทม ห้องเสวย ห้องสำราญ ฯลฯ ทุกห้องล้วนมีเครื่องประดับงดงามตระการตาและภาพเขียนที่มีชื่อเสียง
การก่อสร้างพระราชวังแวร์ซายส์แห่งนี้ได้นำเงินมาจากค่าภาษีอากรของราษฎรชาวฝรั่งเศส ต่อมาจึงได้มีกองทัพประชาชนบุกเข้ายึดพระราชวังและจับพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 แห่งฝรั่งเศส กับพระนางมารี อองตัวเนต ประหารด้วย "กิโยติน" ในวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2332 ปัจจุบันพระราชวังแวร์ซายส์ยังอยู่ในสภาพดีและเปิดให้ประชาชนเข้าชมได้
สิ่งที่น่าสนใจภายในพระราชวังแวร์ซายส์
ห้องกระจก (Galerie des Glaces หรือ The Hall of Mirrors) เป็นห้องที่มีชื่อเสียงมากที่สุดซึ่งเคยใช้เป็น ห้องลงนามในสัญญาสงบศึกระหว่างสัมพันธมิตรกับเยอรมัน ในสงครามโลกครั้งที่ 1 และใช้เป็นที่ลงนาม ในเมื่อเยอรมันบุกตีชนะฝรั่งเศสในสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกด้วย ห้องนี้พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ทรงทำการก่อสร้างเอง ภายในห้องประกอบด้วยกระจกยักษ์ 17 บาน เปิดออกแล้วจะเห็นสวนแวร์ซายส์อันสวยงาม
เหตุผลที่พระราชวังแวร์ซายส์ได้รับการคัดเลือกให้เป็นมรดกโลก
พระราชวังแวร์ซายส์ได้รับจดทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 3 เมื่อปี พ.ศ. 2522 ที่ประเทศอียิปต์ ด้วยข้อกำหนดและหลักเกณฑ์ในการพิจารณา ดังต่อไปนี้
(i) - เป็นตัวแทนซึ่งแสดงผลงานชิ้นเอกที่จัดทำขึ้นด้วยการสร้างสรรค์อันฉลาด
(ii) - เป็นสิ่งที่มีอิทธิพลยิ่ง ผลักดันให้เกิดการพัฒนาสืบต่อมาในด้านการออกแบบทางสถาปัตยกรรม อนุสรณ์สถาน ประติมากรรม สวน และภูมิทัศน์ ตลอดจนการพัฒนาศิลปกรรมที่เกี่ยวข้อง หรือการพัฒนาการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ ซึ่งได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง หรือบนพื้นที่ใดๆ ของโลกซึ่งทรงไว้ซึ่งวัฒนธรรม
(vi) - มีความคิดหรือความเชื่อที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเหตุการณ์ หรือมีความโดดเด่นยิ่งในประวัติศาสตร์

ประเทศฝรั่งเ้ศส

ประเทศฝรั่งเศส (France) หรือ สาธารณรัฐฝรั่งเศส เป็นประเทศที่มีศูนย์กลางตั้งอยู่ในภูมิภาคยุโรปตะวันตก ทั้งยังประกอบไปด้วยเกาะและดินแดนอื่นๆ ในต่างทวีป ประเทศฝรั่งเศสแผ่นดินใหญ่ทอดตัวตั้งแต่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนจนถึงช่องแคบอังกฤษและทะเลเหนือ และจากแม่น้ำไรน์จนถึงมหาสมุทรแอตแลนติก ชาวฝรั่งเศสมักเรียกแผ่นดินใหญ่ว่า หกเหลี่ยม (L'Hexagone) เนื่องจากรูปทรงทางกายภาพของประเทศ ประเทศฝรั่งเศสปกครองด้วยระบอบกึ่งประธานาธิบดี โดยยึดอุดมการณ์จากปฏิญญาว่าด้วยสิทธิของมนุษย์และของพลเมือง
ประเทศฝรั่งเศสมีพรมแดนติดกับประเทศเบลเยียม ลักเซมเบิร์ก เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี โมนาโก อันดอร์ราและสเปน และเนื่องจากประเทศฝรั่งเศสมีดินแดนโพ้นทะเลไว้ในครอบครอง ทำให้มีอาณาเขตติดกับประเทศบราซิลและซูรินาเม (ติดกับเฟรนช์เกียนา) และหมู่เกาะอินดีสเนเธอร์แลนด์ตะวันตก (ติดกับแซงต์-มาร์แตง) อีกด้วย นอกจากนั้นประเทศฝรั่งเศสยังเชื่อมกับสหราชอาณาจักรทางอุโมงค์ช่องแคบอังกฤษอีกด้วย
ประเทศฝรั่งเศสเคยเป็นหนึ่งในประเทศมหาอำนาจของโลกตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 17 เป็นต้นมา ในคริสต์ศตวรรษที่ 18 และ 19 จักรวรรดิฝรั่งเศสเป็นหนึ่งในประเทศจักรวรรดินิยมที่มีอาณานิคมในครอบครองมากที่สุดในโลก แผ่อาณาเขตตั้งแต่แอฟริกาตะวันตกจนถึงเอเชียอาคเนย์ ซึ่งเห็นได้ชัดจากอิทธิพลทางวัฒนธรรม ภาษาและการเมืองการปกครองของดินแดนนั้นๆ ประเทศฝรั่งเศสถูกจัดให้เป็นประเทศที่พัฒนาแล้วและมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 6 ของโลก ประเทศฝรั่งเศสยังเป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุดในโลกอีกด้วย โดยมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกว่า 82 ล้านคนต่อปี ประเทศฝรั่งเศสเป็นประเทศผู้ก่อตั้งสหภาพยุโรปและมีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มประเทศอีกด้วย ประเทศฝรั่งเศสยังเป็นประเทศผู้ก่อตั้งสหประชาชาติ เป็นสมาชิกประชาคมผู้ใช้ภาษาฝรั่งเศสโลก จีแปด นาโต้และสหภาพละติน ประเทศฝรั่งเศสยังเป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและเป็นมหาอำนาจนิวเคลียร์ที่มีหัวรบนิวเคลียร์กว่า 360 หัวรบและเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 59 แห่ง
ที่มาและประวัติของชื่อคำว่า ฝรั่งเศส (France) มาจากภาษาละติน Francia ซึ่งแปลตามตรงว่า ดินแดนแห่งแฟรงค์ (Frankland) และมีหลายทฤษฎีที่สันนิษฐานถึงที่มาของคำว่า แฟรงค์ (Franks) ซึ่งหนึ่งในนั้นคือคำในภาษาโปรโต-เยอรมัน Frankon ซึ่งแปลว่า หลาว หอก หรือทวนซึ่งเป็นอาวุธของพวกแฟรงค์ เป็นที่รู้จักกันในชื่อ ฟรานซิสกา (Francisca)
อีกทฤษฎีหนึ่งตามหลักนิรุกติศาสตร์คือในภาษาเยอรมันโบราณ คำว่า แฟรงค์ แปลว่า อิสระ ซึ่งตรงกันข้ามกับความเป็นทาส โดยคำดังกล่าวยังคงปรากฏในภาษาฝรั่งเศสปัจจุบันในรูป ฟรังก์ (Franc) ซึ่งเป็นสกุลเงินของประเทศฝรั่งเศสจนกระทั่งเปลี่ยนเป็นสกุลเงินยูโรในปี พ.ศ. 2545
ในปัจจุบันประเทศเยอรมนียังเรียกประเทศฝรั่งเศสว่า Frankreich ซึ่งแปลว่า อาณาจักรแห่งแฟรงค์ อีกด้วย
เมืองหลวงกรุงปารีส
ที่ตั้งประเทศฝรั่งเศสตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของทวีปยุโรป ทิศเหนือติดกับช่องแคบอังกฤษ ประเทศเบลเยียม และลักเซมเบิร์ก ทิศตะวันออกติดกับเยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ และอิตาลี ทิศตะวันตกติดกับมหาสมุทรแอตแลนติก และทิศใต้ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน อันดอร์ราและสเปน

ภูมิอากาศโดยทั่วไปฤดูหนาวอากาศเย็น และฤดูร้อนอากาศอบอุ่น ส่วนภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียน ฤดูหนาวอากาศไม่เย็นจัด และฤดูร้อนอากาศร้อน สามารถมีลม Mistral พัดผ่านจากทิศเหนือไปยังทิศตะวันตกเฉียงเหนือได้เป็นครั้งคราว

พื้นที่211,152 ตารางไมล์ หรือ 657,417 ตารางกิโลเมตร (รวมดินแดนโพ้นทะเล)

ประชากร63.7 ล้านคน (มกราคม 2549)

ภาษาราชการฝรั่งเศส (มีภาษา Dialects เช่น Breton, Provençal, Alsatian, Corsican เป็นต้น)

ศาสนาคริสต์ (90% โรมันคาธอลิค) นอกจากนั้นโปรเตสแตนท์ (2%) ยิว (1%) มุสลิม (5-10%) ไม่นับถือศาสนา 4%
วัฒนธรรม
ชาวฝรั่งเศสมีวัฒนธรรมการนอนกลางวัน จึงส่งผลให้ประเทศอาณานิคมของฝรั่งเศสชอบนอนกลางวันตามไปด้วย อย่างไรก็ตามในส่วนลึกของวัฒนธรรม คล้ายคลึงกับของอังกฤษและอิตาลีอยู่แล้ว ไม่สามารถแบ่งได้ชัดเจนเด่นชัด เช่น การจับมือ ภาษา เป็นต้น
สกุลเงินยูโร (Euro) 1 ยูโร

วันชาติ14 กรกฎาคม

ระบบการเมืองประชาธิปไตยแบบรัฐสภา ประกอบด้วยสภาแห่งชาติและวุฒิสภา

ระบบการปกครองสาธารณรัฐ แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 22 มณฑล (Région) ซึ่งแบ่งย่อยออกเป็น 96 จังหวัด (Département) จังหวัด-มณฑลโพ้นทะเล (Départements et région d’outre-mer - DOM-ROM) 4 แห่ง ได้แก่Guadeloupe, Martinique, Guyane or French Guiana, Réunion ชุมชนโพ้นทะเล (Collectivités d’outre-mer - COM) ซึ่งเป็นดินแดนที่มีสถานะแตกต่างกัน 6 แห่ง ได้แก่ Polynésie Française (มีสถานะเป็นประเทศโพ้นทะเล หรือ pays d’outre-mer),Saint-Pierre-et-Miquelon, Wallis-et-Futuna, Mayotte (มีสถานะเป็นชุมชนระดับจังหวัดโพ้นทะเล หรือ collectivité départementale d’outre-mer), Saint-Martin, Saint-Barthélemy นอกจากนี้ มีดินแดนที่มีสถานะพิเศษ ได้แก่ Nouvelle Calédonie (มีสถานะเป็นชุมชน) และดินแดนในแถบขั้วโลกใต้ ได้แก่ Kerguelen, Crozet, Saint-Paul-et-Amsterdam, หมู่เกาะ Eparses และ Terre Adélie ซึ่งเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของทวีปแอนตาร์กติก นอกจากนี้ ฝรั่งเศสยังมีกรรมสิทธิ์เหนือเกาะ Clipperton ในมหาสมุทรแปซิฟิกด้วย
การท่องเที่ยว
ประเทศฝรั่งเศสนับเป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมากที่สุดในโลก มีจำนวนถึง 81.9 ล้านคนในปี พ.ศ. 2550 แซงหน้าประเทศสเปน (58.5 ล้านคนในปี พ.ศ. 2549) และสหรัฐอเมริกา (51.1 ล้านคนในปี พ.ศ. 2549) จำนวน 81.9 ล้านคนนี้ ไม่รวมนักท่องเที่ยวที่อาศัยในประเทศฝรั่งเศสน้อยกว่า 24 ชั่วโมง เช่น ชาวยุโรปทางตอนเหนือที่เดินทางผ่านประเทศฝรั่งเศสเพื่อไปประเทศสเปนหรืออิตาลีในฤดูร้อน ประเทศฝรั่งเศสมีสถานที่ท่องเที่ยวในทุกๆ บรรยากาศไม่ว่าจะเป็น สถานที่ท่องเที่ยวทางด้านวัฒนธรรมหรือธรรมชาติ ที่ประกอบไปด้วยทะเล หาดทราย ป่า แม่น้ำ ภูเขา บ้านพักตากอากาศ ฯลฯ สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมมากที่สุดมีดังนี้[3] หอไอเฟล (6.2 ล้าน) , พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (5.7 ล้าน) , พระราชวังแวร์ซายส์ (2.8 ล้าน) , พิพิธภัณฑ์ออร์เซ (2.1 ล้าน) , ประตูชัยฝรั่งเศส (1.2 ล้าน) , ซองตร์ ปอมปิดู (1.2 ล้าน) , มงต์-แซงต์-มิแชล (1 ล้าน) , ชาโต เดอ ชองบอร์ด (711,000) , แซงต์-ชาแปลล์ (683,000) , ชาโต ดู โอต์-โคนิคบูร์ก (549,000) , ปุย เดอ โดม (5 แสน) , พิพิธภัณฑ์ปิกัสโซ (441,000) และการ์กาสซอนน์ (362,000)
ประเทศฝรั่งเศสมีโรงแรมกว่า 18,217 แห่ง สถานที่ตั้งแคมป์ 8,289 แห่ง หมู่บ้านตากอากาศ 1001 แห่ง บ้านพักเยาวชน 188 แห่ง ที่พักราคาย่อมเยาในต่างจังหวัด 63,158 แห่ง ห้องพักพร้อมอาหารเช้าตามบ้านคนท้องถิ่น 31,013 ห้อง โดยประเทศฝรั่งเศสมีรายได้จากการท่องเที่ยว 32.8 พันล้านยูโร นับเป็นอันดับ 3 ของโลกรองจากสหรัฐอเมริกาและอิตาลี และมีดุลการท่องเที่ยวเกินดุลกว่า 9.8 พันล้านยูโร

วันพฤหัสบดีที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ฌอง ฌาค รุสโซ





     28 มิถุนายน พ.ศ. 2255 วันเกิด ฌอง-ฌาค รุสโซ (Jean-Jacques Rousseau) นักปรัชญาสังคมชาวสวิส ผู้มีอิทธิพลต่อการ ปฏิวัติฝรั่งเศส (French Revolution) ผู้นำคนสำคัญแห่ง ยุคแสงสว่างทางปัญญา (Enligntenment) เกิดที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ มารดาเสียชีวิตหลังจากคลอดเขาได้เพียง 9 วัน บิดาเป็นช่างนาฬิกาที่ไม่ประสบความสำเร็จ ตอนอายุ 6 ขวบ พ่อของเขาติดคุก จึงต้องไปอยู่กับลุง เขาหัดอ่านหนังสือมาตั้งแต่เด็กและเรียนรู้ด้วยตัวเอง ตอนอายุ 16 ปีออกจากเจนีวา เดินทางท่องเที่ยวและหางานทำไปเรื่อย ๆ จนได้เป็นผู้ช่วยทูต ในปี 2293 เขาตีพิมพ์หนังสือ Discourse on the Arts and Sciences ซึ่งประสบความสำเร็จและสร้างชื่อให้เขาอย่างมาก อีกสิบเอ็ดปีต่อมาก็ตีพิมพ์นิยายเรื่องแรก Julie, ou la nouvelle Heloise (The New Heloise) จากนั้นก็มีผลงานออกมาเสมอทั้งหนังสือวิชาการและนิยาย ผลงานที่มีชื่อเสียงได้แก่ The Social Contract, or Principles of Political of political Right และ The Confessions of Jean-Jacques Rousseau รุสโซเชื่อว่า ธรรมชาติของมนุษย์เป็นคนดี แต่สังคมทำให้มนุษย์แปดเปื้อน และมนุษย์มีเสรีภาพตามธรรมชาติโดยไม่จำกัด แต่เมื่อมนุษย์รวมตัวเป็นสังคมจึงต้องมีการจำกัดสิทธิเสรีภาพบางส่วนโดยาการทำ "สัญญาประชาคม" (The Social Contract) เพื่อไม่ให้เกิดการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของกันและกัน เขากล่าวว่า "มนุษย์เกิดมาพร้อมเสรีภาพ แต่ทุกหนทุกแห่ง เขาต้องอยู่ในเครื่องพันธนาการ" ความคิดรุสโซมีอิทธิพลต่อการปฏิวัติฝรั่งเศส ในปี 2332 และพัฒนาเป็นทฤษฎีสังคมนิยม (socialist theory) และมีส่วนสำคัญของพัฒนาการทางแนวคิด โรแมนติก (Romanticism) ในช่วงคริสตศตวรรษที่ 19
ฌอง-ฌาค รุสโซ (Jean Jaques Rousseau) (28 มิถุนายน พ.ศ. 2255 - 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2321) เป็นนักปรัชญา, นักเขียน, นักทฤษฎีการเมือง, และนักประพันธ์เพลงที่ฝึกหัดด้วยตนเอง แห่งยุคแสงสว่าง

ปรัชญาของรุสโซ
คำสอนของเขาสอนให้คนหันกลับไปหาธรรมชาติ { back to nature } เป็นการยกย่องคุณค่าของคนว่า "ธรรมชาติของคนดีอยู่แล้วแต่สังคมทำให้คนไม่เสมอภาคกัน" เขาบอกว่า "เหตุผลมีประโยชน์ แต่มิใช่คำตอบของชีวิต ดังนั้นเราจึงต้องพึ่งความรู้สึก สัญชาตญาณและอารมณ์ของเราเอง ให้มากกว่าเหตุผล"

ทฤษฎี 'คนเถื่อนใจธรรม'
รุสโซเชื่อว่ามนุษย์นั้นเป็นคนดีโดยธรรมชาติ หรือเป็น "คนเถื่อนใจธรรม" (nobel savage) เมื่ออยู่ในสภาวะธรรมชาติ (สภาวะเดียวกันกับสัตว์อื่นๆ และเป็นสภาพที่มนุษย์อยู่มาก่อนที่จะมีการสร้างอารยธรรม และสังคม) แต่ถูกทำให้แปดเปื้อนโดยสังคม เขามองสังคมว่าเป็นสิ่งที่ถูกประดิษฐ์ขึ้น และเชื่อว่าการพัฒนาของสังคม โดยเฉพาะการเพิ่มขึ้นของการพึ่งพากันในสังคมนั้น เป็นสิ่งที่อันตรายต่อความเป็นอยู่ของมนุษย์

ความเรียงชื่อ "การบรรยายเกี่ยวกับศิลปะและวิทยาศาสตร์" (พ.ศ. 2293) ที่ได้รับรางวัลของเมือง ได้อธิบายว่าความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และศิลปศาสตร์นั้น ไม่เป็นประโยชน์กับมนุษย์ เขาได้เสนอว่าพัฒนาการของความรู้ทำให้รัฐบาลมีอำนาจมากขึ้น และทำลายเสรีภาพของปัจเจกชน เขาสรุปว่าพัฒนาการเชิงวัตถุนั้น จะทำลายโอกาสของความเป็นเพื่อนที่จริงใจ โดยจะทำให้เกิดความอิจฉา ความกลัว และ ความระแวงสงสัย

งานชิ้นถัดมาของเขา การบรรยายว่าด้วยความไม่เสมอภาค ศึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาและการทำลายของมนุษย์ ตั้งแต่ในสมัยโบราณ จนถึงสมัยใหม่ เขาเสนอว่ามนุษย์ในยุคแรกสุดนั้น เป็นมนุษย์ครึ่งลิงและอยู่แยกกัน มนุษย์แตกต่างจากสัตว์เนื่องจากมีความต้องการอย่างอิสระ (free will) และเป็นสิ่งที่สามารถแสวงหาความสมบูรณ์แบบได้ เขายังได้กล่าวว่ามนุษย์ยุคบุคเบิกนี้มีความต้องการพื้นฐาน ที่จะดูแลรักษาตนเอง และมีความรู้สึกห่วงหาอาทรหรือความสงสาร เมื่อมนุษย์ถูกบังคับให้ต้องมีความสัมพันธ์กันมากขึ้นเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของประชากร จึงได้เกิดการปรับเปลี่ยนทางด้านจิตวิทยา และได้เริ่มให้ความสำคัญกับความคิดเห็นของคนอื่น ๆ ว่าเป็นสิ่งสำคัญต่อกาีรมีชีวิตที่ดีของตนเอง รุสโซได้เรียกความรู้สึกใหม่นี้ ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการผลิบานของมนุษย์

วันพฤหัสบดีที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ประวัติราชบุรี


  พ.ศ. 2476   เมื่อได้มีการยกเลิกการปกครองแบบมณฑลทั้งหมด  มณฑลราชบุรีจึงถูกยกเลิกและคงฐานะเป็นจังหวัดราชุบรีจนถึงปัจจุบัน จังหวัดราชบุรีมีชื่ออันเป็นมงคลยิ่ง  หมายถึง   " เมืองพระราชา"ราชบุรีเป็นเมืองเก่าแก่     เมืองหนึ่งของประเทศไทย  จากการศึกษา  และขุดค้นของนักประวัติศาสตร์  นักโบราณคดี  พบว่าดินแดนแถบลุ่ม  แม่น้ำแม่กลองแห่งนี้เป็นถิ่นฐานที่อยู่อาศัยของคนหลายยุคหลายสมัย  และมีความรุ่งเรืองมาตั้งแต่อดีตจากหลักฐานทางโบราณสถานและโบราณวัตถุมาก ทำให้เชื่อได้ว่ามีผู้คนตั้งถิ่นฐานอยู่ใน  บริเวณนี้ตั้งแต่ยุคหินกลาง  ตลอดจนได้ค้นพบเมืองโบราณสมัยทราวดีที่ตำบลคูบัว อำเภอเมืองราชบุรี พระบาทสมเด็จพระยุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช  ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี   ได้เคยดำรงตำแหน่งหลวงยกกระบัตรเมืองราชบุรีในสมัยกรุงศรีอยุธยา ตอนปลาย  ซึ่งในช่วงปลายสมัย กรุงศรีอยุธยาและตอนต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ปรากฎหลักฐานทางประวัติศาสตร์พบว่า  เมืองราชบุรีเป็นเมือง    หน้าด่านที่สำคัญ และ  เป็นสมรภูมิการรบหลายสมัย   โดยเฉพาะในสมัยสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกได้ยกทัพมาตั้งรับศึกพม่าในเขตราชบุรีหลายครั้ง   ครั้งสำคัญที่สุดคือสงครามเก้าทัพ    ต่อมา พ.ศ. 2360  ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยได้โปรดเกล้าฯ  ให้สร้างกำแพงเมืองใหม่ทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำแม่กลองตลอดมาจนถึงปัจจุบัน  ครั้นถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวใน  พ.ศ. 2437  ได้ทรงเปลี่ยนการปกครองส่วนภูมิภาคโดยรวมหัวเมืองต่างๆ  ที่อยู่ใกล้ชิดกัน  ตั้งขึ้นเป็นมณฑล  และได้รวมเมืองราชบุรี  เมืองกาญจนบุรี  เมืองสมุทรสงคราม   เมืองเพชรบุรี  เมืองปราณบุรี  เมืองประจวบคีรีขันธ์     รวม 6 เมือง  ตั้งขึ้นเป็นมณฑลราชบุรี  ตั้งที่บัญชาการมณฑล  ณ  ที่เมืองราชบุรีทางฝั่งขวาของแม่น้ำแม่กลอง     (ปัจจุบันคือศาลากลางจังหวัดราชบุรีหลังเก่า)  ต่อมาใน  พ.ศ.  2440  ได้ย้ายที่บัญชาการเมืองราชบุรี  จากฝั่งซ้ายกลับมาตั้งรวมอยู่แห่งเดียวกับศาลาว่าการมณฑลราชุบรี  ทางฝั่งขวาของแม่น้ำแม่กลอง  จนถึง 

แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ

[แก้]

วันพุธที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2554

นาน

กว่าจะเสร็จ

10อันดับทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดในโลก

10. ทะเลทรายเกรตเบซิน (Great Basin Desert) 

 

 

ที่ตั้ง : ทางภาคตะวันตกของสหรัฐอเมริกา ทวีปอเมริกาเหนือ
พื้นที่รวมทั้งหมด : 492,000 ตารางกิโลเมตร (190,000 ตารางไมล์)
 

9. ทะเลทรายซีเรีย (Syrian Desert) 

 

 

ที่ตั้ง : ในเขตประเทศซีเรีย อิรัก ซาอุดิอารเบีย จอร์แดน และส่วนหนึ่งของอิสราเอล ภูมิภาคเอเชียตะวันออกกลาง
พื้นที่รวมทั้งหมด : 520,000 ตารางกิโลเมตร (200,000 ตารางไมล์)
 

8. ทะเลทรายเกรตวิคตอเรีย (Great Victoria Desert) 

 

 

ที่ตั้ง : ออสเตรเลีย
พื้นที่รวมทั้งหมด : 647,000 ตารางกิโลเมตร (250,000 ตารางไมล์)
เป็นส่วนหนึ่งของที่ราบอันว่างเปล่านัลลาบอร์ (Nullabor)
 

7. ทะเลทรายปาตาโกเนีย (Patagonia Desert) 

 

 

ที่ตั้ง : ทางตอนใต้ของทวีปอเมริกาใต้ ในเขตที่ราบสูงปาตาโกเนีย ประเทศอาร์เจนติน่า และชิลี
พื้นที่รวมทั้งหมด : 670,000 ตารางกิโลเมตร (260,000 ตารางไมล์)
 

6. ทะเลทรายคาลาฮารี (Kalahari Desert) 

 

 

ที่ตั้ง : ทางตอนกลางและใต้ของทวีปแอฟริกา ในเขตประเทศนามิเบีย บอตสวาน่า ซิมบับเว แซมเบีย แองโกล่า แอฟริกาใต้ และส่วนหนึ่งของดีอาร์คองโก
พื้นที่รวมทั้งหมด : 900,000 ตารางกิโลเมตร (360,000 ตารางไมล์)
 

5. ทะเลทรายโกบี (Gobi Desert) 

 

 

ที่ตั้ง : ตอนกลางของทวีปเอเชีย ในเขตประเทศจีน และมองโกเลีย
พื้นที่รวมทั้งหมด : 1,300,000 ตารางกิโลเมตร (500,000 ตารางไมล์)
 

4. ทะเลทรายอาหรับ (Arabian Desert) 

 

 

ที่ตั้ง : ภูมิภาคตะวันออกกลาง ในเขตประเทศซาอุดิอารเบีย โอมาน เยเมน สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ คูเวต จอร์แดน และอิรัก
พื้นที่รวมทั้งหมด : 2,330,000 ตารางกิโลเมตร (900,000 ตารางไมล์)
รวมถึงพื้นที่ รุบ อัล-คาลี (พื้นที่อันว่างเปล่า)ด้วย
 

3. ทะเลทรายซาฮาร่า (Sahara Desert) 

 

 

ที่ตั้ง : ในเขตทวีปแอฟริกาเหนือ ประเทศอียิปต์ ซูดาน ชาด ลิเบีย ตูนิเซีย แอลจีเรีย ไนเจอร์ มาลี มอริเตเนีย ซาฮาร่าตะวันตก และโมร็อคโค
พื้นที่ทั้งหมด : 9,100,000+ ตารางกิโลเมตร (3,320,000+ ตารางไมล์)
 

ป.ล. ทะเลทรายซาฮารา เป็นทะเลทรายแบบร้อนที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่ก็ยังเล็กกว่าทะเลทรายแบบหนาว ที่บริเวณขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ เป็นอันดับสาม เหตุที่บริเวณขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้เรียกได้ว่าเป็นทะเลทรายนั้น เนื่องจากเป็นบริเวณที่ได้รับน้ำฝนน้อยเช่นกัน 

2. อาร์กติก (Arctic) 

 

 

ที่ตั้ง : ขั้วโลกเหนือ
พื้นที่ทั้งหมด : 13,700,000 ตารางกิโลเมตร (5,300,000 ตารางไมล์)
ป.ล. เป็นทะเลทรายแบบเมืองหนาว
 

1. แอนตาร์คติกา (Antarctica) 

 

 

 
ธงชาติของแอนตาร์คติกา 

ที่ตั้ง : ขั้วโลกใต้
พื้นที่รวมทั้งหมด : 13,829,430 ตารางกิโลเมตร (5,339,573 ตารางไมล์)
 

สัญญาประชาคม

        ในประวัติความคิดทางการเมืองอิทธิพลของรุสโซดูจะมีมากกว่าและลึกกว่ามองเตสกิเออในแง่ของการประทับความรู้สึกนึกคิดของคนร่วมสมัยและผลสะท้อนในศตวรรษต่อมาความสำเร็จของทฤษฎีต่างๆ   ของรุสโซเกิดขึ้นก็เนื่องจากว่าสังคมยุโรปโดยเฉพาะอย่างยิ่งสังคมฝรั่งเศสในขณะนั้นกำลังต้องการอยู่  ก่อนหน้าการปฏิวัติใหญ่ในปี ค.ศ.1789  บรรดาผู้คนแก่ทั้งหลายต่างก็หยิบยก  สัญญาประชาคม   ขึ้นมาถกเถียงกัน   กล่าวได้ว่าการปฏิวัติ 1789 ได้รับอิทธิพลทั้งโดยทั้งทางตรงและทางอ้อมจากความคิดมูลฐานสำคัญๆแห่ง  สัญญาประชาคม  ซึ่งได้เข้ามาแทรกซึมอยู่ในความรู้สึกนึกคิดของมหาชนผู้มีการศึกษาและแพร่ขยายออกไป    ความคิดมูลฐานสำคัญๆ  ดังกล่าวนี้ได้แก่  ความคิดเกี่ยวกับเอกภาพของรัฐ   เกี่ยวกับผลประโยชน์ส่วนร่วมที่จะต้องได้รับการเคารพ   เกี่ยวกับอำนาจอธิปไตยของประชาชน  เกี่ยวกับกฎหมายซึ่งเป็นการแสดงออกของเจนจำนงทั่วไป   เกี่ยวกับการขจัดออกไปซึ่ง  สังคมย่อย  อันได้แก้กลุ่มคระต่างๆ  สมาคมพรรคการเมือง  เกี่ยวกับความไม่ไว้วางใจฝ่ายบริหารเกี่ยวกับระบอบเผด็จการเพื่อความปลอดภัยสาธารณะและเกี่ยวกับศาสนาของราษฎร
       ความคิดของรุสโซเหล่านี้มีอิทธิพลต้อผู้ร่างรัฐธรรมนูญฝรั่งเศส  ค.ศ.1789 มาก  เช่นเดียวกับอิทธิพลของความคิดของมองเตสกิเออและของซิเออแยส  โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังปี  ค.ศ.1792 ความคิดเหล่านี้ได้เข้าครบงำกลุ่มการเมืองสำคัญๆ   ของฝรั่งเศสอันได้แก่กลุ่มมองตานญ์  และโรเบสปีแอร์  รัฐธรรมนูญ  ค.ศ.1793  ของฝรั่งเศสก็คือผลิตผลโดยตรงของความคิดของรุสโซ  ในปัจจุบันระบอบประชาธิปไตยตะวันตกก็ยังเป็นระบอบที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานความคิดของรุสโซอยู่หลายประการ  ได้แก่มนุษย์ทุกคนเกิดมาอิสระและยังคงเป็นอิสระและเสมอภาคกันในกฎหมาย ความคิดที่ว่าจุดมุ่งหมายของรัฐก็คือการธำรงรักษาไว้ซึ่งสิทธิธรรมชาติของมนุษย์  ความคิดที่ว่าบุคคลเมื่อเข้ามาร่วมตัวกันอยู่เป็นรัฐก็ไม่ควรอยู่ใต้อำนาจใครเลย  นอกจากอำนาจของมวลพวกเขากันเอง   และประการสุดท้าย  ความคิดที่ว่ากฎหมายคือการแสดงออกของเจนจำนงทั่วไป  ราษฎรทุกคนมีสิทธิเข้าไปมีส่วนร่วมในการออกกฎหมาย

สถานที่ท่องเที่ยว

รั่งเศสมีภูมิประเทศและภูมิอากาศที่แตกต่างกันมาก แต่ละเขตจะมีสภาพธรรมชาติ วัฒนธรรม อาหารประจำถิ่น และเสน่ห์เฉพาะตนไม่เหมือนกัน ประเทศฝรั่งเศสประกอบด้วยเขตการปกครอง 22 แคว้น แต่คุณทราบหรือไม่ว่า กลางมหาสมุทรแปซิฟิกก็ยังมีดินแดนในความปกครองของฝรั่งเศสซึ่งเรียกกันว่าเขตการปกครองโพ้นทะเลอยู่อีกด้วย
คุณจะได้รู้จักภูมิภาคต่างๆ ของฝรั่งเศส ซึ่งแบ่งตามสภาพทางภูมิศาสตร์ออกได้เป็น เขต โดยเป็นการแนะนำภาพกว้างๆ และมีข้อมูลสั้นๆ ทางการท่องเที่ยวที่น่าสนใจหรือสิ่งสำคัญที่คุณไม่ควรพลาดชมเมื่อได้ไปเยือนที่นั้นๆ
หากคุณต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสนใจข้อมูลการท่องเที่ยวทั้งหมดของแต่ละเขต เพื่อเตรียมการเดินทางของคุณ สามารถติดต่อได้โดยตรงกับสำนักงานการท่องเที่ยวประจำภูมิภาคนั้นๆ ซึ่งมีสถานที่ติดต่อระบุไว้ด้านล่างหรือเปิดดูได้จากเว็บไซต์ http://www.franceguide.com ของ Maison de la France ซึ่งเป็นเสมือนประตูเปิดสู่ประเทศฝรั่งเศส และได้รวบรวมข้อมูลที่จำเป็นในด้านต่างๆ ไว้มากมาย เชิญคุณไปค้นหาความสุขและความเพลิดเพลินในแบบที่คุณชื่นชอบที่ประเทศฝรั่งเศส เราพร้อมที่จะต้อนรับคุณอยู่เสมอ

วันพฤหัสบดีที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ลำดับประชากรโลก

ประเทศไทยจัดเป็นประเทศที่มีจำนวนประชากร มากเป็นอันดับที่ 19 ของโลก มีจำนวนประมาณ 63 ล้านคน

ลำดับที่1 คือ ประเทศจีนมีประชากรทั้งหมด(ประมาณ) 1,321,851,888