ถ้าจะกล่าวถึงประเทศฝรั่งเศส นอกจากหอไอเฟลที่ทุกคนจะนึกถึงเป็นอันดับต้นๆแล้ว ทิมเบอร์เชื่อว่า"Louis Vuitton" (หลุยส์ วิตตอง) สินค้าแบรนด์ดังสัญชาติฝรั่งเศสก็จะเป็นอีกหนึ่งอย่างที่ทุกคนนึกถึงเป็น อันดับต้นๆเช่นกัน
เรื่องเล่าของหลุยส์ วิตตอง ว่ากันว่าเกิดจากความบังเอิญในยุคต้นศตวรรษที่19 เมื่อการรถไฟของฝรั่งเศสจะทำการเปลี่ยนหนังหุ้มเบาะในตู้นอนของรถไฟชั้น หนึ่ง จากหนังวัวที่เริ่มจะเปื่อยยุ่ยและชำรุด มาเป็นแผ่นผ้าอาบใยสังเคราะห์ซึ่งถือว่าเป็นวัสดุทันสมัยในยุคนั้น มีความอ่อนนุ่มและทนทานกว่า และยังรักษาความสะอาดได้ง่ายกว่า แผ่นผ้านี้ผู้ผลิตได้ออกแบบลวดลายเป็นลายดอกไม้สี่กลีบในวงกลมสีเหลืองโอ้คบ นผืนผ้าสีน้ำตาลเข้มและใช้ตัวอักษรL Vไขว้กันอันเป็นชื่อย่อของเขา แทนที่จะเป็นW Lอันเป็นตัวย่อของคำว่า Wagon Lit ซึ่งหมายถึง “ตู้นอน ” และผ้าที่ว่านี้ได้ผลิตเสร็จเรียบร้อยพร้อมที่จะทำการบุที่นั่งทั้งหมดได้ใน ทันที หากแต่ข้อผิดพลาดของ Vและ W เป็นอุปสรรคที่ไม่อาจนำผ้าทั้งหมดไปใช้งานได้ แก้ไขก็ไม่ได้นอกจากต้องสั่งผลิตใหม่ทั้งหมด ผ้าจำนวนนั้นจึงถูกระงับโดยมิอาจนำมาใช้ในงานนี้ได้ จำนวนผ้าลวดลายดังกล่าวทั้งหมดที่ถูกปฏิเสธจึงถูกนำไปแปรรูปใช้ในงานอื่นจาก โรงงานผู้ผลิต แต่เพื่อมิให้เป็นการสูญเปล่า โดยนำไปใช้หุ้มหีบใส่สัมภาระสำหรับการเดินทางซึ่งแต่เดิมเป็นการใช้หนังวัว หุ้มบนโครงหีบไม้ มีหมุดเหล็กตอกเป็นระยะเพื่อความทนทาน อันเป็นหีบที่นิยมกันอย่างแพร่หลายในขณะนั้น และใช้ชื่อสินค้าตามชื่อสกุลของผู้ผลิตเป็นเครื่องหมายการค้า และนั่นคือที่มาของชื่อ Louis Vuitton
หีบของ หลุยส์ วิคตอง เริ่มเป็นที่รู้จักสำหรับนักเดินทางที่เริ่มเดินทางด้วยเรือเดินสมุทรในเวลา ต่อมา ด้วยคุณภาพที่ต่างจากหีบหนังแท้คือมีน้ำหนักเบากว่า สามารถใส่สัมภาระได้มากกว่ารวมทั้งสะดวกต่อการลำเลียง นอกจากนั้นยังไม่ซับน้ำไม่ว่าจะเป็นน้ำฝนหรือน้ำทะเล และเมื่อวางกองรวมอยู่กับหีบเดินทางอื่นๆก็ดูโดดเด่นกว่าด้วยลวดลายที่พิเศษ ง่ายต่อการสังเกตที่บรรดาลูกหาบและเจ้าของที่จะชี้ได้ในทันทีหีบของ หลุยส์ วิคตอง เริ่มเป็นที่รู้จักสำหรับนักเดินทางที่เริ่มเดินทางด้วยเรือเดินสมุทรในเวลา ต่อมา ด้วยคุณภาพที่ต่างจากหีบหนังแท้คือมีน้ำหนักเบากว่า สามารถใส่สัมภาระได้มากกว่ารวมทั้งสะดวกต่อการลำเลียง นอกจากนั้นยังไม่ซับน้ำไม่ว่าจะเป็นน้ำฝนหรือน้ำทะเล และเมื่อวางกองรวมอยู่กับหีบเดินทางอื่นๆก็ดูโดดเด่นกว่าด้วยลวดลายที่พิเศษ ง่ายต่อการสังเกตที่บรรดาลูกหาบและเจ้าของที่จะชี้ได้ในทันทีหีบของ หลุยส์ วิคตอง เริ่มเป็นที่รู้จักสำหรับนักเดินทางที่เริ่มเดินทางด้วยเรือเดินสมุทรในเวลา ต่อมา ด้วยคุณภาพที่ต่างจากหีบหนังแท้คือมีน้ำหนักเบากว่า สามารถใส่สัมภาระได้มากกว่ารวมทั้งสะดวกต่อการลำเลียง นอกจากนั้นยังไม่ซับน้ำไม่ว่าจะเป็นน้ำฝนหรือน้ำทะเล และเมื่อวางกองรวมอยู่กับหีบเดินทางอื่นๆก็ดูโดดเด่นกว่าด้วยลวดลายที่พิเศษ ง่ายต่อการสังเกตที่บรรดาลูกหาบและเจ้าของที่จะชี้ได้ในทันที
และเมื่อครั้งที่พระนางอูเชนี อัครมเหสีในพระเจ้านโปเลียนที่3 แห่งฝรั่งเศสได้เสด็จฯโดยเรือเดินสมุทรไปร่วมในพิธีเปิดคลองสุเอซอันเป็น คลองขุดน้ำเค็มที่เชื่อมระหว่างทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและทะเลแดงในประเทศ อียิปต์ พระนางก็ใช้หีบของ หลุยส์ วิตตอง เป็นหีบใส่พระภูษาอาภรณ์และสัมภาระต่างๆเป็นจำนวนนับสิบหีบ ไล่ขนาดจากเล็กไปหาใหญ่แลดูเป็นเถาโก้เก๋เป็นที่สุดในสมัยนั้น
เรื่องเล่าของหลุยส์ วิตตอง ว่ากันว่าเกิดจากความบังเอิญในยุคต้นศตวรรษที่19 เมื่อการรถไฟของฝรั่งเศสจะทำการเปลี่ยนหนังหุ้มเบาะในตู้นอนของรถไฟชั้น หนึ่ง จากหนังวัวที่เริ่มจะเปื่อยยุ่ยและชำรุด มาเป็นแผ่นผ้าอาบใยสังเคราะห์ซึ่งถือว่าเป็นวัสดุทันสมัยในยุคนั้น มีความอ่อนนุ่มและทนทานกว่า และยังรักษาความสะอาดได้ง่ายกว่า แผ่นผ้านี้ผู้ผลิตได้ออกแบบลวดลายเป็นลายดอกไม้สี่กลีบในวงกลมสีเหลืองโอ้คบ นผืนผ้าสีน้ำตาลเข้มและใช้ตัวอักษรL Vไขว้กันอันเป็นชื่อย่อของเขา แทนที่จะเป็นW Lอันเป็นตัวย่อของคำว่า Wagon Lit ซึ่งหมายถึง “ตู้นอน ” และผ้าที่ว่านี้ได้ผลิตเสร็จเรียบร้อยพร้อมที่จะทำการบุที่นั่งทั้งหมดได้ใน ทันที หากแต่ข้อผิดพลาดของ Vและ W เป็นอุปสรรคที่ไม่อาจนำผ้าทั้งหมดไปใช้งานได้ แก้ไขก็ไม่ได้นอกจากต้องสั่งผลิตใหม่ทั้งหมด ผ้าจำนวนนั้นจึงถูกระงับโดยมิอาจนำมาใช้ในงานนี้ได้ จำนวนผ้าลวดลายดังกล่าวทั้งหมดที่ถูกปฏิเสธจึงถูกนำไปแปรรูปใช้ในงานอื่นจาก โรงงานผู้ผลิต แต่เพื่อมิให้เป็นการสูญเปล่า โดยนำไปใช้หุ้มหีบใส่สัมภาระสำหรับการเดินทางซึ่งแต่เดิมเป็นการใช้หนังวัว หุ้มบนโครงหีบไม้ มีหมุดเหล็กตอกเป็นระยะเพื่อความทนทาน อันเป็นหีบที่นิยมกันอย่างแพร่หลายในขณะนั้น และใช้ชื่อสินค้าตามชื่อสกุลของผู้ผลิตเป็นเครื่องหมายการค้า และนั่นคือที่มาของชื่อ Louis Vuitton
และเมื่อครั้งที่พระนางอูเชนี อัครมเหสีในพระเจ้านโปเลียนที่3 แห่งฝรั่งเศสได้เสด็จฯโดยเรือเดินสมุทรไปร่วมในพิธีเปิดคลองสุเอซอันเป็น คลองขุดน้ำเค็มที่เชื่อมระหว่างทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและทะเลแดงในประเทศ อียิปต์ พระนางก็ใช้หีบของ หลุยส์ วิตตอง เป็นหีบใส่พระภูษาอาภรณ์และสัมภาระต่างๆเป็นจำนวนนับสิบหีบ ไล่ขนาดจากเล็กไปหาใหญ่แลดูเป็นเถาโก้เก๋เป็นที่สุดในสมัยนั้น
จากปารีสสู่อเล็กซานเดรียรอนแรมไปถึงไคโร จาก
เวนิสข้ามเมดิเตอร์เรเนียนสู่อิสตันบูล จากคาเล่ย์ข้ามช่องแคบอังกฤษสู่ลอนดอนและข้ามแอตแลนติคจนถึงนิวยอร์ค ทำให้หีบเดินทางนามนี้กลายเป็นของหรูของโก้ที่บรรดาเหล่าเชื้อพระวงศ์ ผู้ดีมีสกุลในยุโรปพากันตื่นตัวที่จะมีไว้ใช้กันโดยถ้วนหน้า และในเวลาต่อมาความนิยมก็ได้แพร่หลายมาสู่บุคคลในวงการบันเทิงตั้งแต่ใน ยุโรปข้ามโลกไปจนถึงฮอลลีวู้ด และความนิยมได้มาถึงนักธุรกิจภาพยนตร์จากเอเชีย ที่ต่างพร้อมใจกันอุดหนุนสินค้าชื่อนี้เป็นของฝากเมื่อได้ไปร่วมงานมหกรรม ภาพยนตร์ที่เมืองคานนส์ทำให้สินค้าของ หลุยส์ วิตตอง ซึ่งมีบูติคอยู่ที่ทั้งเมืองนีซ เมืองคานนส์ และโมนาโคเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในหมู่ดารานักแสดงและผู้มีฐานะที่ไปใช้ เวลาพักผ่อนในช่วงฤดูร้อนที่นั่น หลายครั้งที่หีบและกระเป๋าเดินทางชื่อนี้ถูกนำมาเข้าฉากภาพยนตร์ของ ฮอลลีวู้ดฟอร์มใหญ่หลายเรื่องตั้งแต่เรื่องโรมัน ฮอลลิเดย์ ภาพยนตร์รักกระจุ๋มกระจิ๋มเมื่อหลายสิบปีก่อน จนถึงภาพยนตร์ย้อนยุคเช่นเรื่องไททานิค และภาพยนตร์เรื่อง ดิ อิทาเลียน จ๊อบ ที่ใช้กระเป๋าโอเวอร์ไนท์ของ หลุยส์ วิตตอง ในการลำเลียงทองคำแท่งอันเป็นการยืนยันถึงความทนทาน ซึ่งเท่ากับเป็นการยืนยันให้เห็นถึงรสนิยมและอิทธิพลของสินค้าชื่อนี้ต่อ ทั้งผู้สร้างและแฟนภาพยนตร์ ด้วยเอกลักษณ์ที่สะดุดตากว่าสินค้าอื่นนั่นเอง
เวนิสข้ามเมดิเตอร์เรเนียนสู่อิสตันบูล จากคาเล่ย์ข้ามช่องแคบอังกฤษสู่ลอนดอนและข้ามแอตแลนติคจนถึงนิวยอร์ค ทำให้หีบเดินทางนามนี้กลายเป็นของหรูของโก้ที่บรรดาเหล่าเชื้อพระวงศ์ ผู้ดีมีสกุลในยุโรปพากันตื่นตัวที่จะมีไว้ใช้กันโดยถ้วนหน้า และในเวลาต่อมาความนิยมก็ได้แพร่หลายมาสู่บุคคลในวงการบันเทิงตั้งแต่ใน ยุโรปข้ามโลกไปจนถึงฮอลลีวู้ด และความนิยมได้มาถึงนักธุรกิจภาพยนตร์จากเอเชีย ที่ต่างพร้อมใจกันอุดหนุนสินค้าชื่อนี้เป็นของฝากเมื่อได้ไปร่วมงานมหกรรม ภาพยนตร์ที่เมืองคานนส์ทำให้สินค้าของ หลุยส์ วิตตอง ซึ่งมีบูติคอยู่ที่ทั้งเมืองนีซ เมืองคานนส์ และโมนาโคเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในหมู่ดารานักแสดงและผู้มีฐานะที่ไปใช้ เวลาพักผ่อนในช่วงฤดูร้อนที่นั่น หลายครั้งที่หีบและกระเป๋าเดินทางชื่อนี้ถูกนำมาเข้าฉากภาพยนตร์ของ ฮอลลีวู้ดฟอร์มใหญ่หลายเรื่องตั้งแต่เรื่องโรมัน ฮอลลิเดย์ ภาพยนตร์รักกระจุ๋มกระจิ๋มเมื่อหลายสิบปีก่อน จนถึงภาพยนตร์ย้อนยุคเช่นเรื่องไททานิค และภาพยนตร์เรื่อง ดิ อิทาเลียน จ๊อบ ที่ใช้กระเป๋าโอเวอร์ไนท์ของ หลุยส์ วิตตอง ในการลำเลียงทองคำแท่งอันเป็นการยืนยันถึงความทนทาน ซึ่งเท่ากับเป็นการยืนยันให้เห็นถึงรสนิยมและอิทธิพลของสินค้าชื่อนี้ต่อ ทั้งผู้สร้างและแฟนภาพยนตร์ ด้วยเอกลักษณ์ที่สะดุดตากว่าสินค้าอื่นนั่นเอง
จากปีค.ศ.1896เป็นต้นมาหีบ หลุยส์ วิตตอง ในลวดลาย โมโนแกรม ก็สำแดงคุณภาพอันพิเศษให้เป็นที่ประจักษ์ยากจะหาใครเหมือน ก็คือความทนทานคุ้มราคานั่นเอง ด้วยหีบส่วนใหญ่ที่มีน้ำหนักมากมักชำรุดเสียระหว่างเดินทาง หากแต่หีบนามนี้กลับมีความทนทานมากกว่า โดยเฉพาะตามขอบมุมที่มักถูกกระทบกระแทกจนช้ำชอก ได้รับการป้องกันด้วยการหุ้มมุมด้วยโลหะและตอกหมุดเย็บตะเข็บเป็นอย่างดี โครงข้างในก็เบาและมั่นคงมีการใช้ซับในที่น่าดู ไม่เหม็นกลิ่นหนังที่อับชื้นและหากมีการชำรุดก็ส่งซ่อมได้โดยง่าย ยิ่งทำให้สินค้าชื่อนี้เป็นที่นิยมเป็นทวีคูณ
จากปากต่อปากคำต่อคำในที่สุด หลุยส์ วิตตอง ก็กลายเป็นสินค้าฝรั่งเศสที่ขายดีที่สุดในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา ทั้งที่เป็นสินค้าที่แทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์เลยแต่ก็เป็นสินค้า ที่มียอดขายมากที่สุดจากร้านเล็กๆในมหานครปารีส ปัจจุบัน หลุยส์ วิตตอง มีบูติคที่เปิดจำหน่ายสินค้าของตนในทุกเมืองสำคัญของโลกกว่าร้อยแห่ง ยิ่งเปิดมากยอดจำหน่ายก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ และเมื่อไม่กี่ปีมานี้เองที่ หลุยส์ วิตตอง เริ่มเพิ่มแบบและเพิ่มสีสันให้ลูกค้าเลือกได้มากขึ้น และมีการใช้กลยุทธ์ในการจำกัดจำนวนและถิ่นฐานของผู้ซื้อ กลับกลายเป็นการกระตุ้นยอดขาย ให้บรรดาผู้ที่นิยมในสินค้าชื่อนี้เดินทางไปตามเมืองต่างๆ เพื่อซื้อหามาเป็นสมบัติของตนให้จงได้ อย่างไม่รู้สึกเสียดมเสียดายในเงินทองที่ต้องจ่ายออกไปแม้แต่ทั้งที่สินค้า ของ หลุยส์ วิตตอง เป็นสินค้าราคาสูงหากแต่ด้วยคุณภาพที่ทนทานคุ้มราคา ทำให้สินค้านี้เป็นที่นิยมมากขึ้นอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นสิ่งแสดงรสนิยมและฐานะ นอกเหนือไปจากการเป็นนักเดินทางผู้มากด้วยประสบการณ์เช่นเมื่อสองศตวรรษที่ แล้ว
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : http://timberfierce.blogspot.com/2009/12/louis-vuitton.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น