วันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

                             อลังการพบ 5 เค้กแต่งงานที่แพงที่สุดในโลก

   อันดับ 1 Pirates Fantasy
 
          ไพเรตส์ แฟนตาซี เป็นเค้กที่ทำขึ้นโดย ดิมูตู คูมาราซิง เซเลบฯ คนดังของประเทศศรีลังกา สนนราคาของเค้กก้อนนี้เหนาะ ๆ ที่ 35 ล้านดอลลาร์ หรือ 1,050 ล้านบาท! โดยรูปร่างของเค้กทำเหมือนโรงแรมสุดหรูแห่งหนึ่ง ตัวเค้กนี้มีอยู่ทั้งหมด 10 ชั้น แค่ละชั้นก็ประดับด้วยอัญมณีตระกูลแซฟไฟร์ราคาแพงระยับแตกต่างกันไป ซึ่งอัญมณีที่ราคาแพงที่สุดคือ King Sapphire โดยมีเครื่องประดับต่าง ๆ 10 ชิ้น ไม่ว่าจะเป็นแหวน สร้อยคอ สร้อยข้อมือ ต่างหู ในส่วนของส่วนผสมของเนื้อเค้กจริง ๆ จะว่าไปแล้วก็ไม่แตกต่างจากเค้กทั่ว ๆไป เช่น อัลมอนด์, ฟักทอง และชินนามอน
 


 อันดับ 2 Wedding Cake by Nahid La Patisserie Artistique and Mimi So
 
          เค้กแต่งงานก้อนนี้ออกแบบโดยนักออกแบบเค้กชื่อดังในเบเวอร์รี่ ฮิลล์ นายิด ปาร์ซา ซึ่งได้ มิมี่ นักออกแบบเสื้อผ้าและเครื่องประดับชื่อดังของนิวยอร์กเป็นผู้ช่วย จุดเด่นของเค้กก้อนนี้ คือการนำเอาเพชรจำนวนมาก มาประดับประดาจนทั่ว ราคาของเค้กก้อนนี้จึงอยู่ที่ 20 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 614 ล้านบาท 

อันดับ 3 Diamond Chocolate Cake
 
            นักออกแบบจิวเวอรี่ชาวญี่ปุ่นทำเค้กก้อนนี้ออกมาให้มีรูปร่างคล้ายกับแผนที่ของทวีปแอฟริกา พร้อมประดับประดาด้วยเพชรกว่า 2,000 พันเม็ด จริง ๆ แล้วไม่มีการเปิดเผยมูลค่าของเค้กก้อนนี้ แต่ประเมินกันว่าราว 5 ล้านดอลลาร์หรือ 135.5 ล้านบาท ทั้งนี้ คู่บ่าวสาวสามารถสั่งทำเค้กเป็นภาพของตัวเองได้


 อันดับ 4 Diamond Fruitcake
 
          เพชรฟรุ๊ตเค้กนี่ทำขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่นเช่นกัน เป็นเค้ก 2 ชั้น ทำเป็นทรง 6 เหลี่ยม 6 ด้าน ประดับด้วยเพชร 223 เม็ด ปักในเนื้อเค้กเป็นลายดอกไม้ สนนราคาที่ 1.7 ล้านดอลลาร์ หรือ 52 ล้านบาท เจ้าสาวอาจไม่อยากเสิร์ฟเค้กก้อนนี้ให้แขกก็เป็นได้ เพราะมันน่ารักและแพงขนาดนี้นี่หน่า (จริงไหม?)

อันดับ 5 Diamond Wedding Cake
 
          เค้กก้อนนี้ทำขึ้นโดยนักทำเค้กชาวดัลลัส สหรัฐฯ ตัวเค้กมี 9 ชั้น น้ำหนัก 160 ปอนด์ ประดับประดาด้วยเพชร 1,200 กะรัต รอบ ๆ ฐานของแต่ละชั้น แต่งด้วยทับทิมเพื่อให้ดูโดดเด่น  ราคาอยู่ที่ 1.3 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 40 ล้านบาท  

12 วิธี... บอกลาผิวหม่นหมอง

  1. การขัดผิว เป็น วิธีทําให้ผิวขาว ที่ขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไปจากผิว โดยการใช้สครับที่มีขายตามท้องตลาด หรือจะเป็นสครับจากธรรมชาติง่าย ๆ แต่ได้ผล ซึ่งมีหลากหลายสูตรให้เลือก ได้แก่ มะละกอ นมสด มะขามเปียก น้ำผึ้ง โยเกิร์ต มะนาว  โดยนำอย่างใดอย่างหนึ่งมาผสมกับเกลือทะเลเพื่อให้มีเม็ดสำหรับขัดผิว เพียงเท่านี้คุณก็มีสครับขัดผิวได้ง่าย ๆ แล้ว หรือจะใช้ใยบวบในการช่วยขัดผิวก็ได้ การขัดผิวนี้จะช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดลอกออกไป แล้วเผยผิวใหม่ที่แน่นอนว่าต้องสว่างใสกว่าเดิม และควรทำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อการปรนนิบัติและดูแลผิวอย่างต่อเนื่อง

           
 2. เอเอชเอ หรือกรดผลไม้ มีขายทั่วไปตามคลินิกเสริมความงามหรือร้านขายยาทั่วไป ใช้สำหรับทาบนใบหน้าสัปดาห์ละ 2 ครั้งเพื่อกระตุ้นให้เซลล์ผิวเก่าหลุดลอกออกมา เป็น วิธีทําให้ผิวขาว เผยผิวใหม่ที่ขาวผ่อง แต่การใช้เอเอชเอนี้ ต้องดูแลและระวังเรื่องการออกแดด เพราะผิวคุณจะบางลงและไวต่อแดดมากกว่าเดิม

           
 3. น้ำนมเพื่อผิวขาว ไม่จำเป็นต้องลงไปแช่ในอ่างที่มีน้ำนมอยู่เต็มอ่าง แต่คุณสามารถทำตาม วิธีทําให้ผิวขาว ได้ง่าย ๆ ด้วยการใช้น้ำนมทาบนผิวโดยตรง อาจใช้ใยบวบช่วยเพื่อขัดผิวไปด้วยเบา ๆ ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที ทำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ผิวจะค่อย ๆ ขาวขึ้น

           
 4. ผลไม้รสเปรี้ยว ช่วยในการขัดขี้ไคล เป็น วิธีทําให้ผิวขาว ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยใช้ผลไม้รสเปรี้ยว เช่น มะนาว สับปะรด มะขามเปียก ส้ม เพราะมีความเป็นกรด ช่วยทำความสะอาดผิวให้ขาวใส และกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกมาได้ แต่หากคุณเป็นคนผิวบาง ไม่ควรใช้มะนาวหรือสับปะรดที่มีความเป็นกรดสูง ควรใช้ส้มเช้งที่มีคุณสมบัติคล้าย ๆ กันก็ได้

           
 5. ครีมบำรุงเพื่อผิวขาว ควรใช้ครีมบำรุงที่มีไวท์เทนนิ่งเพื่อผิวขาวในตอนเย็น และทาซ้ำก่อนนอนเพื่อเสริมประสิทธิภาพของครีมบำรุงให้บำรุงอย่างต่อเนื่อง ส่วนตอนกลางวันให้ทาไวท์เทนนิ่งเพียงบาง ๆ แล้วตามด้วยครีมกันแดด หรือจะใช้ไวท์เทนนิ่งที่มีส่วนผสมของสารป้องกันแสงแดดก็ได้ แต่หากสาว ๆ คนไหน อยู่ติดบ้าน ไม่ได้ออกไปเผชิญแสงแดดเลย ใช้ไวท์เทนนิ่งตัวเดียว ทาวันละ 2-3 ครั้งก็เอาอยู่แล้วจ้า

           
 6. ครีมกันแดด ควรเป็นสิ่งที่สาว ๆ ต้องมีติดกระเป๋าอยู่ตลอดเวลา ในกรณีที่คุณต้องเผชิญกับแสงแดดจัดโดยไม่ได้วางแผนมาก่อนจะได้หยิบขึ้นมาใช้ได้ทันการทันเวลา และอย่าลืมว่า ครีมกันแดดจำเป็นอย่างยิ่ง ถ้าหากคุณเพิ่งขัดผิวหรือใช้เอเอชเอกับผิวมาหมาด ๆ เพราะผิวคุณจะไวต่อแดดมาก จึงควรทาครีมกันแดด 20 นาทีก่อนออกแดดทุกครั้ง และทาซ้ำอีกทุก ๆ 2-3 ชั่วโมง

           
 7. ทานอาหารให้เหมาะสม โดยให้มีผักและผลไม้ในอัตราส่วนครึ่งต่อครึ่งทุกมื้อ เพราะผักผลไม้เป็นอาหารที่ย่อยง่าย ช่วยเรื่องของการขับถ่าย และยังมีแอนตี้อ็อกซิแดนซ์ที่ทำให้ผิวสวยกระชับอีกด้วย ซึ่งเมื่อร่างกายขับถ่ายตามปกติแล้ว หน้าตาผิวพรรณก็จะสดใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

           
 8. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพราะการออกกำลังกายจะช่วยขับเหงื่อไคล และสิ่งสกปรกใต้ผิวรวมถึงสารพิษออกมา ซึ่งจะทำให้ผิวดูสว่างสดใสขึ้น ยิ่งออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง ก็ยิ่งทำให้ผิวสดใสอยู่ตลอดเวลา แถมการออกกำลังกายยังช่วยลดการอุดตันของสิ่งสกปรกใต้ผิว ทำให้ไม่มีสิวอีกด้วย

           
 9. วิตามินซีเพื่อผิวสวย วิตามินซีมีสรรพคุณช่วยให้ผิวสวยสดใส ดังนั้นจึงเป็นสารอาหารที่ร่างกายควรได้รับอยู่เสมอ ไม่ว่าจะจากการทานผักผลไม้ เช่น ส้ม ฝรั่ง มะนาว หรือหากได้รับในแต่ละวันไม่เพียงพอ ก็อาจจะทานวิตามินแบบเม็ดที่ขายในร้านขายยาก็ได้ วิธีทําให้ผิวขาว นี้จะช่วยในเรื่องผิวและมีส่วนช่วยในเรื่องการขับถ่ายไปพร้อม ๆ กัน

           
 10. การอบไอน้ำผิวหน้า เป็นการทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่อุดตันอยู่ในรูขุมขนอย่างลึกซึ้ง ช่วยทั้งเรื่องของผิวสะอาดสว่างใส เป็นทั้ง วิธีทําให้ผิวขาว และช่วยขจัดสิวไปพร้อม ๆ กัน โดยวิธีอบไอน้ำผิวหน้านั้นก็ทำได้ง่าย ๆ เพียงตั้งกะทะต้มน้ำจนเดือด จากนั้นน้ำกะทะมาวางบนโต๊ะแล้วยื่นหน้าให้อยู่เหนือไอน้ำ ความร้อนจะช่วยเปิดรูขุมขน และไอน้ำจะเข้าไปทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่อุดตันรูขุมขนค่ะ

           
 11. เมคอัพช่วยได้ ใช้ครีมรองพื้นและแป้งที่สว่างกว่าผิวจริง 1 ระดับสี และหลังจากแต่งหน้าแล้วให้นำพู่กันแตะแป้งกลิตเตอร์ประกายมุกปัดบริเวณหน้าผากและโหนกแก้ม ก็จะช่วยให้หน้าดูสว่างใสขึ้นได้เยอะเลยทีเดียว

           
 12. สารพัดสูตรพอกหน้า นอกจากการขัดผิวแล้ว สาว ๆ ที่อยากมีผิวขาวสุขภาพดีควรพอกหน้า รวมถึงผิวกายให้ได้สัปดาห์ละ 2 ครั้ง โดยสูตรผิวขาวที่สามารถทำเองได้จากวัตถุดิบในบ้านนั้นก็มีมากมาย ที่สำคัญยังเห็นผลชัดอีกด้วยหากทำอย่างต่อเนื่อง และสูตร วิธีทําให้ผิวขาว ที่หยิบยกมาฝากกัน มีดังนี้

           วิธีทําให้ผิวขาว : สูตรมะละกอนมสด นำมะละกอมาบดผสมกับนมสด คนให้เข้ากัน จากนั้นนำไปพอกบนใบหน้าหรือผิวกายทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วล้างออก

           วิธีทําให้ผิวขาว : โยเกิร์ตผสมมะนาว มะนาวเป็นผลไม้อีกชนิดหนึ่งที่มีความเป็นกรดสูงมาก จนอาจทำให้แสบผิวได้ ดังนั้นการนำมะนาวมาผสมโยเกิร์ตแล้วนำไปทาผิวทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที จะช่วยลดการระคายเคืองผิว และมะนาวจะช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่า เผยผิวใหม่ที่ใสกว่าเดิม 

           
วิธีทําให้ผิวขาว : น้ำมันมะพร้าวเพื่อผิวเนียนนุ่ม เป็นสูตรโบราณที่ใช้ได้ผลมาก น้ำมันมะพร้าวจะช่วยในเรื่องการทำให้ผิวเนียนนุ่มชุ่มชื้น แม้เพียงครั้งแรกที่ได้นำน้ำมันมะพร้าวมาทาผิว รับรองได้เลยว่า สาว ๆ จะรู้สึกถึงความเนียนนุ่มได้ทันทีเลยล่ะ

           วิธีทําให้ผิวขาว : น้ำผึ้งและโยเกิร์ต นำส่วนผสมดังกล่าวพอกลงบนใบหน้าหรือผิวกายประมาณ 30 นาทีก่อนล้างออก ช่วยให้ผิวขาวและนุ่มขึ้นได้ สามารถทำได้วันเว้นวันค่ะ

           วิธีทําให้ผิวขาว : กล้วยหอมและนมสด นำมาบดผสมกัน จากนั้นนำไปพอกผิวในบริเวณที่ต้องการ จะทำให้ผิวขาวเนียนสวยได้ สามารถทำได้วันเว้นวันเช่นกัน

วันพฤหัสบดีที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2557


     The Venezia Hua Hin



เวเนเซียหัวหิน



The Venezia Hua Hin




 เวเนเซีย หัวหิน นับว่าเป็นช้อปปิ้ง คอมเพล็กซ์ แห่งใหม่ ซึ่งเป็นโครงการที่จำลองเวนิส ประเทศอิตาลี มาไว้ที่เมืองไทย จัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ โดยภายในโครงการมีสิ่งอำนวยความสะดวกสามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการสัมผัสความเป็นเวนิสได้เป็นอย่างดี 
          นอกจากนี้ ยังมีการจำลองจัตุรัสเซ็นต์มาร์ค (St. Mark Square) และหอระฆัง (Bell Tower) สัญลักษณ์ของเมืองเวนิส ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงติดอันดับโลกมาไว้ที่ด้านหน้าโครงการ เพื่อเป็นลานกิจกรรมขนาดใหญ่ และจุดชมวิว อีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความเป็นเวนิส คือ แกรนด์คาแนล (Grand Canal) ความยาวกว่า 200 เมตร ที่มีเรือกอนโดลาล่องไปในบรรยากาศเสมือนอยู่ในเวนิสจริง ๆ

The Venezia Hua Hin

ทางด้านสถาปัตยกรรมการออกแบบอาคารในแต่ละโซน จะมีรูปแบบสีสันที่แตกต่างกัน โดยล้อไปกับสถาปัตยกรรมในแต่ละเกาะของเมืองเวนิส ล้อมรอบด้วยการจัดวางภูมิทัศน์ที่งดงาม ประกอบด้วยสวนดอกไม้นานาพรรณ ลานน้ำพุ และงานประติมากรรมที่บ่งบอกความเป็นเวนิสอย่างแท้จริง

The Venezia Hua Hin


ซึ่งภายใน The Venezia ประกอบด้วย Village Zone หรือ Shopping Complex Mallที่รวบรวมร้านค้าชั้นนำกว่า 300 ร้านค้า ทั้งแบรนด์ทั่วโลกและแบรนด์ชั้นนำของไทย พร้อมทั้งร้านค้าสไตล์อินดี้ หรือร้านค้าขนาดเล็ก อีกหนึ่งมนต์เสน่ห์ของเวนิสด้วย, ดื่มด่ำกับ 30 ร้านอาหาร-เครื่องดื่ม, ล่องเรือ Gondola, มีรถม้า และรถไฟเล็กวิ่งตลอดทั้งโครงการ รวมทั้งเทศกาลไอศกรีมและของหวาน, Seafood Festival และ International Beer & Wine ที่จะจัดเป็นประจำทุกปี

ตุ๊กตาแม่ลูกดก                       

ตุ๊กตาแม่ลูกดก หรือ มาโตรชก้า  เป็นตุ๊กตาของรัสเซียที่เรียงซ้อน ๆ กันหลายตัว ชื่อนี้แผลงมาจากชื่อสตรีภาษารัสเซีย ว่า "มาตรีโยนา" หรืออาจจะถูกเรียกว่าตุ๊กตาคุณยาย

     ประวัติ

กำเนิดของตุ๊กตาที่น่ารักตัวนี้เป็นประเด็นที่ถกเถียงกันระยะหนึ่ง ในที่สุดก็ได้ข้อสรุปเป็นสองทาง ทางหนึ่งว่า พระชาวรัสเซียเป็นบุคคลแรกที่นำวิชาทำตุ๊กตาไม้ไปจากเกาะฮนชูของญี่ปุ่น เมื่อมาถึงรัสเซียแล้ว ก็ผสมผสานรูปแบบกับศิลปะท้องถิ่น เช่น แนวคิดในการซ้อนตุ๊กตาที่คุ้นเคยกันดีในรัสเซีย และประยุกต์เข้ากับงานประดิษฐ์แอปเปิลไม้และไข่อีสเตอร์ แล้วตั้งชื่อขึ้นใหม่ว่า มาโตรชก้า
อีกทางหนึ่งว่ามาโตรชก้าได้รับแรงบันดาลใจจากตุ๊กตาที่ระลึกจากเกาะฮอนชูในญี่ปุ่น และเมื่อเทียบกับตุ๊กตาไม้ของญี่ปุ่นแล้ว ก็จะเห็นว่าตุ๊กตาญี่ปุ่นเหล่านั้นมีลักษณะบางอย่างคล้ายคลึงกับมาตริยอชคา ด้วยเป็นตุ๊กตาเด็กผู้หญิงแกะด้วยไม้ เชื่อกันว่าในภายหลังมีการนำตุ๊กตาจากญี่ปุ่นไปยังแผ่นดินรัสเซียเมื่อราว พ.ศ. 2430
เมื่อปี พ.ศ. 2443 เอ็ม. เอ. มามอนตอฟ ได้นำตุ๊กตาแบบนี้ไปจัดแสดงในงานสินค้า (World Exhibition) ที่กรุงปารีส และได้รับรางวัลเหรียญทองแดง และในไม่ช้าก็มีการผลิตตุ๊กตาแม่ลูกดกในรัสเซียอย่างแพร่หลายในหลายท้องที่และหลากหลายรูปแบบ
เมื่อประมาณ 120 ปีที่ผ่านมา มีการพัฒนาเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของรัสเซียครั้งใหญ่ จึงมีความสนใจที่จะอนุรักษ์ธรรมเนียมพื้นบ้านมากขึ้น ด้วยมีการฟื้นฟูวัฒนธรรมและรวบรวมผู้เชี่ยวชาญศิลปะพื้นบ้านต่าง ๆ และเพื่อเป็นการอนุรักษ์ความทรงจำเก่า ๆ เกี่ยวแก่ท้องถิ่นรัสเซีย จึงมีการสร้างห้องทำงานช่างศิลปะขึ้นใกล้กับกรุงมอสโก ศิลปะพื้นบ้านต่าง ๆ จำพวกของเล่นและตุ๊กตา ถูกรวบรวมมาจากพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อศึกษาและผลิตสืบต่อไป
ศิลปินคนสำคัญคนหนึ่งชื่อว่าเซียร์เกย์ มัลยูติน ได้ร่างแบบตุ๊กตาแม่ลูกดกขึ้นมาเป็นครั้งแรก แต่หลังจากนั้นได้มีการถกเถียงและแก้ไขรูปร่างกันหลายครั้ง สุดท้ายก็ได้รูปแบบที่ตกลงกัน คือวาดเป็นเด็กหญิงหน้ากลมแป้น ตาใสแจ๋ว สวมชุดที่เรียกว่า ซาราฟัน (ชุดยาวถึงพื้นมีสายรั้งสองข้าง) และวาดผมสวย แต่มีผ้าคลุมศีรษะสีสดใสให้ แล้วยังมีตุ๊กตาที่เหมือนกัน แต่ตัวเล็กกว่าใส่ไว้ข้างในด้วย แต่ตุ๊กตาข้างในแต่งตัวไม่เหมือนกัน กล่าวคือสวมโคโซโวรอตคัส (กระโปรงแบบรัสเซีย) และเสื้อเชิ้ตปอดดิออฟคัส (เสื้อคลุมยาวถึงเอวของผู้ชาย) และผ้ากันเปื้อนด้วย รูปร่างของตุ๊กตาแม่ลูกดกสมัยที่มัลยูตินได้ร่างแบบไว้ในมอสโก เมื่อปี พ.ศ. 2434 เป็นอย่างนี้